จากการรวบรวมข้อมูลโดยเว็บไซต์ยานยนต์ชื่อดัง Focus2move.แนท สื่อยานยนต์สัญชาติอิตาเลี่ยน ที่ได้รวบรวมข้อมูลการซื้อขายรถยนต์ขนาดกลางจากทั่วโลกประจำปี 2020 ที่ผ่านและสรุปเป็น 10 โมเดลที่มียอดจำหน่ายสูงสุดทั่วโลก จะมีแบรนด์ไหน รุ่นใดติดมาในลิสต์บ้างไปติดตามกันได้เลยครับ
[adsforwp id=”1302″]
10.Audi A4 (257,440 คัน)
รถยนต์ขนาดกลางจากผู้ผลิตเยอรมัน Audi A4 ที่มียอดการจำหน่ายรวมกันทั่วโลก 257,440 คัน ที่มีการผลิตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตัวโฉมแรกในปี 1994 จนถึงปัจจุบัน โดยที่ตัวรถรุ่นล่าสุดนั้นมาพร้อมกับขุมกำลังที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และไฮบริด อีกทั้งยังมีรุ่นย่อยที่เป็นทั้งแบบ 4 ประตูและ 5 ประตู ทำให้มีทางเอกที่มากขึ้นสำหรับผู้บริโภค
9.Buick Excelle GT (260,226 คัน)
แบรนด์นี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตา นักขับชาวไทยสักเท่าไหร่ เพราะมันเป็นแบรนด์ผู้ผลิตจากประเทศจีน ภายใต้การดูแลของ Shanghai General Motors Company Limited ซึ่งเจ้าพื้นฐานดั่งเดิมของ Buick Excelle GT นั้นเป็นการนำเอาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีมาจาก Daewoo Lacetti จากผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งผลิตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดตัวโฉมแรกในปี 2009 และในโฉมปัจจุบันนั้นเป็นเจเนอเรชั่นที่สองของโมเดล ที่ปัจจุบันมีขนาดเครื่องยนต์ให้เลือกที่หลากหลายไล่เรียงไปตั้งแต่ 1.0 ลิตรเทอร์โบ 1.3 ลิตรเทอร์โบ 1.4 ลิตรเทอร์โบ และ 1.5 ลิตรแบบธรรมดา
8.BMW 3 Series (299,941 คัน)
แบรนด์ผู้ผลิตระดับโลกสัญชาติเยอรมัน มีครองใจหลายๆ นักขับมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ไม่เพียงแต่ให้การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังคงรูปลักษณ์ที่หรูหราและแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมที่ช่วยยกระดับของผู้ที่ครอบครองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการใส่ระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด และการพัฒนาต่อยอดโมเดลที่ก้าวหน้าในทุกๆ ปี ก็ทำให้ Serie 3 ของ BMW นั้นครอบครองฐานแฟนคลับอย่างเหนียวแน่นมาตลอด 50 ปี ของการผลิต
7.Volkswagen Passat (319,097 คัน)
การปรับโฉมครั้งใหม่ของรถยนต์ในระดับ Compact Car จากผู้ผลิตเยอรมัน Volkswagen Passat ที่ช่วยปรับรูปลักษณ์ของตัวรถให้ดูสปอร์ตมากขึ้น พร้อมด้วยขุมกำลังใหม่ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ กำลังสูงสุด 174 แรงม้า (HP) ที่ 5,400 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิด 206 ib-ft ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 22 ib-ft ซึ่งกลายเป็นจุดขายใหญ่ของโมเดลนี้ ถึงแม้ว่าตัวรถจะมีรุ่นย่อยที่แตกต่างกันเพียงการติดตั้งอุปกรณ์และการตกแต่ง แต่มันก็สามารถสร้างยอดขายที่น่าพึงพอใจได้เป็นอย่างดี กับปี ที่ดูจะยากลำบากนี้
6.Mercedes-Benz C Class (334,06 คัน)
อีกหนึ่งผู้ผลิตสัญชาติเยอรมันที่ครองใจนักขับทั่วโลก Mercedes-Benz กับรุ่น C Class ที่มาพร้อมกับงานออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยเน้นที่รูปลักษณ์ด้านหน้า ไฟหน้าและไฟท้าย รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อให้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมของ Mercedes-Benz ที่ในปัจจุบันที่รุ่นย่อยให้เลือกใช้งานอย่างหากหลายไม่ว่าจะเป็น C220 d Avatgarde, C 300 e Avantgared, C 220 d AMG Dynamic, C 300 e AMG Dynamic และ C 200 Coupe AMG Dynamic
5.Tesla Model 3 (397,780 คัน)
เดินทางมาถึงตรงกลาง กับผู้ผลิตหน้าใหม่ที่เป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพียงหนึ่งเดียวที่ติดเขามาในลิสต์นี้ กับ Tesla Model 3 ที่สร้างยอดขายทั่วโลกอย่างน่าประทับใจถึง 3.9 แสนคัน และยังดูทีท่าว่าแบรนด์นี้อะไรก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ หลังจากที่บริษัทมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับจากสังคม และยังส่งต่อไปถึงนักธุรกิจเจ้าของผู้มีแนวคิดที่ฉีกธนบอย่าง Elon Musk ที่ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ณ ตอนนี้
[adsforwp id=”1302″]
4.Honda Accord (435,269 คัน)
มาถึงแบรนด์ขวัญใจมหาชนอย่าง Honda ที่มียอดขายโมเดล Accord ในปี 2020 ถึง 435,269 คัน แต่โดยภาพรวมแล้ว Honda มียอดขายที่ตกต่ำลงจากเดิมเล็กน้อยด้วยสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ทรงตัวหลังประสบปัญญหา COVID-19 แต่ด้วยยอดขายที่มากกว่าที่สื่อหลายๆ สำนักคาดการณ์ไว้ ก็เป็นคำตอบที่น่าพึงพอใจกับแบรนด์ที่ยังคงได้รับความเชื่อถือต่อผู้บริโภค และยังจัดว่าเป็นผู้ผลิตเบอร์ใหญ่แถวหน้าของวงการ
3.Volkswagen Lavida (463,804 คัน)
เป็นเพียงผู้ผลิตรายเดียวที่มีโมเดลขายดีที่สุดใน Segment ที่ใกล้เคียงกัน หลังจากเผยโฉมครั้งแรกในงาน Auto Chiina 2018 ก็สร้างกระแสได้เป็นอย่างดี ด้วยการปรับตัวถังที่กว้างและยาวมากขึ้นจากโมเดลเดิม พร้อมด้วยตัวเลือกเครื่องยนต์ 3 รูปแบบทั้งแบบ เบนซิน 1.4 ลิตรธรรมดา 116 แรงม้า (HP) 1.2 ลิตรเทอร์โบ และขีดสุดกับเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเทอร์โบ 150 แรงม้า (HP) ด้วยการตั้งเป้าในการเจาะกลุ่มตลาดที่มีกำลังในการซื้อที่รองลงมาจาก Passaat ก็ทำให้เจ้า Lavida นั้นประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
2.Nissan Sylphy / Sentra (544,156 คัน)
ควรคู่กับสโลแกนที่ว่า “ความแรงที่คุณค่าในกลุ่มเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร” ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intelligent Mobility : Power จากผู้ผลิต เครื่องยนต์ตัวท๊อปที่มาพร้อมกับ 1.6 ลิตร DIG Turbo Charge 190 แรงม้า (BHP) ที่แรงที่สุดในกลุ่ม พร้อมเกียร์ X-tronic CVT 6 สปีด Manual Mode อีกขั้นแห่งความแรงเพื่อบ่งบอกความเป็นสปอร์ตตัวจริง ผสานที่สุดแห่งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ Nissan Intelligent Safety Shield Technology ที่ช่วยให้การขับขี่นั้นปลอดภัยขึ้นขีดสุด
1.Toyota Camry (591,742 คัน)
มาถึงที่สุดของรถยนต์ขนาดกลางขายดี ประจำปี 2020 คงจะเป็นใครไปไม่ได้กับเบอร์หนึ่งของโลกในตอนนี้อย่าง Toyota กับโมเดล Camry ที่มีปีที่ยอดเยี่ยมอีกเช่นเคย กับการเปลี่ยนโฉมใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ ที่ดูพรีเมี่ยมในราคาที่จับต้องได้ บวกกับรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม เหมาะกับบุคลิกของผู้นำรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์มิติตัวรถขนาดใหญ่ไว้เหมือนเดิม ที่ปรับโฉมมาตั้งแต่ปี 2018 แต่ยังคงโดดเด่นและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก
Credit : www.focus2move.com
[adsforwp id=”1302″]