หลังจากการตัดทอนเงินอุดหนุนของภาครัฐในการครอบครองรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีน และการประกาศลดราคาของ Tesla ในประเทศจีน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ BYD ต้องออกมาแก้สถานการณ์ด้วยการประกาศลดราคาผลิตภัณฑ์ของตัวเองลงจากเดิม เพื่อการต่อสู้ในตลาดที่เข้มข้นที่สุดในเอเชีย
[adsforwp id=”1302″]
เมื่อช่วงกลางปี 2022 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ออกประกาศว่าจะลดเงินในการอุดหนุนแบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าลงจากเดิม ส่งผลให้ Tesla เบอร์หนึ่งของตลาดรถยนต์ BEV ในประเทศจีนประสบปัญหาอย่างหนักในการทำตลาด ด้วยราคาที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตรายย่อยในประเทศได้มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ BYD ที่มียอดการจำหน่ายที่เพิ่มเป็นเท่าตัวหลังจากการประกาศนี้ ส่งผลให้ Tesla ต้องออกมาแก้สถานการณ์ด้วยการประกาศลดราคาผลิตภัณฑ์ลง ทำให้ผลการจัดจำหน่ายกลับมาดีเหมือนเดิม
[adsforwp id=”1302″]
ส่วนทางกับ BYD ในจังหวะที่ Tesla ยังไม่มีประกาศลดราคาผลิตภัณฑ์ของตนเอง BYD หลังมีการประกาศเพิ่มราคาผลิตภัณฑ์ เพื่อชดเชยผลกระทบของการอุดหนุนจากรัฐที่ลดลงและวัตถุดิบในการผลิตที่เริ่มจะขาดแคลน โดยส่วนหนึ่งการเพิ่มราคานี้เกิดขึ้นเพื่อรักษาผลกำไรโดยตรงของบริษัท แต่ในช่วงเดือนมกราคม 2023 ที่ผ่านมา Tesla ได้ประกาศลดราคาผลิตภัณฑ์ของตัวเองลง ทำให้มีผลการขายที่มากขึ้นถึง 66,000 คันเฉพาะในเดือนมกราคมที่ผ่านมา คิดเป็น 18% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 10.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และทำให้สถานการณ์ของ Tesla หลับมามีผลกำไรอีกครั้ง
ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น BYD เองก็ออกมาแก้ทางด้วยการประกาศลดราคาผลิตภัณฑ์ตัวเองบ้าง โดยในการประกาศครั้งนี้ จะมีอัตราส่วนลดที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ โดยจะมีไลน์ผลิตภัณฑ์ Dynasty, Ocean series และ Denza ในกรุงปักกิ่ง ราคาของ Han EV ปี 2021 ลดลง 20,000 หยวน หรือประมาณ 101,228 บาท ในขณะที่ Qin ลดลง 15,000 หยวน หรือประมาณ 75,919 บาท อย่างที่กล่าวไป การประกาศลดราคาของผลิตภัณฑ์จาก BYD มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ล่ะพื้นที่ โดยเขตเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น จะมีอัตราส่วนลดสูงสุด 10,000 หยวน หรือประมาณ 50,615 บาท โดยการประกาศนี้มีผลทันทีจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี
ส่วนลดนี้จะเป็นการจำหน่ายรถโมเดลเก่าที่ยังคงค้างสต๊อกอยู่ ส่วนรถใหม่สำหรับปี 2022 -2023 นั้นก็ยังคงมีการลดราคาลง โดยจะมีซีรี่ส์ Dynasty, Ocean และ Denza ที่เข้าร่วมกับการลดราคาในครั้งนี้ โดยจะมีอัตราส่วนลดอยู่ที่ 2,000 – 7,000 หยวน หรือประมาณ 10,120 – 30,362 บาท
การลดราคาครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าการรักษาเสถียรภาพของส่วนแบ่งการตลาดที่มีอยู่ในปี 2023 อาจเป็นภารกิจที่สำคัญกว่าการรักษาอัตรากำไรสำหรับ BYD นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนในอุตสาหกรรมยานยนต์เชื่อว่าในปีนี้การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าจะชะลอตัวลงและคาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็วจนต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2022
BYD ยังไม่ได้ประกาศข่าวการลดราคาอย่างเป็นทางการในระดับ Global ซึ่งรวมถึงตลาดในประเทศไทย ซึ่งแผนการลดราคานี้ อาจจะไม่เกิดขึ้นในบางตลาด ดังนั้นตลาดในประเทศไทยก็อาจจะไม่มีแคมเปญลดราคาเหมือนกับในตลาดประเทศจีนก็เป็นไปได้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
[adsforwp id=”1302″]