BYD ผู้ผลิตจากประเทศจีน ได้ใช้พื้นที่ในงาน IAA Transportation 2024 ในประเทศเยอรมัน เป็นเวทีเปิดตัวรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเบา (LCV) รุ่นใหม่ BYD E-Vali รถยนต์ LCV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่เน้นการทำตลาดในโซนยุโรปโดยเฉพาะ
BYD E-Vali ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตลาดในยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่มการขนส่งช่วงสุดท้ายและการจัดส่งพัสดุ ในงานนี้ BYD ไม่เพียงแต่เปิดตัวรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเบาไฟฟ้ารุ่นใหม่ E-Vali เท่านั้น แต่ยังจัดแสดงรถบรรทุกไฟฟ้าและรถแทรกเตอร์สำหรับขนย้ายอุปกรณ์หนักที่ใช้พลังงานไฟฟ้า EYT 2.0 เป็นครั้งแรกอีกด้วย
BYD ระบุว่า E-Vali ซึ่งเปิดตัวทั่วโลกเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเบา ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ที่ตอบสนองความต้องการในการขนส่งช่วงสุดท้ายในยุโรป โดยรุ่นใหม่นี้ใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD และคุณสมบัติช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงและบำรุงรักษาง่ายสำหรับกองยานพาณิชย์ในยุโรป
BYD E-Vali มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ คุณสมบัติมาตรฐาน ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบตรวจจับจุดบอด และระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน
ภายในห้องโดยสาร รถยนต์เพื่อการพาณิชย์รุ่นนี้รองรับ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย แผงหน้าปัดผสานรวมคุณสมบัติต่างๆ เช่น การชาร์จแบบไร้สายและการควบคุมด้วยเสียง BYD E-Vali มีปริมาตรความจุบรรทุกสูงสุดถึง 17.9 ลูกบาศก์เมตร โดยรุ่น 4.25 ตัน รองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 1,450 กิโลกรัม มีประตูหลังแบบเปิดกว้าง เบาะนั่งพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ และความสูงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถยืนตัวตรงภายในได้ รุ่น 3.5 ตันมีขนาด 5,995/2,096/2,780 มิลลิเมตร พร้อมฐานล้อ 3,865 มิลลิเมตร ในขณะที่รุ่น 4.25 ตันจะมีขนาด 6,995/2,096/2,780 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 4,550 มิลลิเมตร
BYD E-Vali มีระยะทางวิ่ง 220-250 กิโลเมตรต่อชาร์จ ตามการตรวจสอบมาตรฐาน WTLP พลังงานจะได้มาจากแบตเตอรี่ BYD Blade ขนาด 80.64 kWh BYD ยกย่องแบตเตอรี่ Blade ของตนว่าปลอดภัยและทนทาน ขณะเดียวกันก็มอบประสิทธิภาพด้านพลังงานและความหนาแน่นของพลังงานสูง แบตเตอรี่สามารถชาร์จเร็วจาก 10% ถึง 80% ในเวลา 30 นาที
นอกจากเปิดตัวรถ BYD E-Vali แล้ว ทางผู้ผลิตจากจะยังนำเสนอ รถแทรกเตอร์สำหรับอุปกรณ์หนักที่ใช้พลังงานไฟฟ้า EYT 2.0 ซึ่งออกแบบมาสำหรับสถานการณ์ด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง เช่น ท่าเรือและท่าเทียบเรือ EYT 2.0 โดดเด่นด้วยดีไซน์ห้องโดยสารแบบออฟเซ็ต แข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่น และรับน้ำหนักรวมได้สูงสุด 75 ตัน จัดการคอนเทนเนอร์และรถพ่วงขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังติดตั้ง Blade Battery ของ BYD ซึ่งทำให้ใช้งานได้นานสูงสุด 16 ชั่วโมงต่อชาร์จ
ในงานดังกล่าว BYD ยังจัดแสดงรถบรรทุกรุ่น ETM6 และ ETH8 อีกด้วย โดยรถบรรทุก ETM6 จะเป็นรถบรรทุกขนาดกลาง 7.5 ตัน ออกแบบมาเพื่อการขนส่งในเมือง ในขณะที่ ETH8 จะเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ 19 ตัน ออกแบบมาเพื่อการขนส่งจำนวนมาก หรือน้ำหนักเยอะ BYD กล่าวว่าทั้งสองรุ่นสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถบรรทุกไฟฟ้าเฉพาะทางของ BYD ซึ่งมีระยะทางวิ่งพร้อมน้ำหนักบรรทุกแบบ Full-Load บนระยะทาง 200 และ 250 กิโลเมตรต่อชาร์จ
แผนกรถยนต์เชิงพาณิชย์ของ BYD มียอดขายมากกว่า 110,000 คันทั่วโลก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2024 ซึ่งรวมถึงรถบรรทุกพลังงานใหม่และรถยนต์เฉพาะทาง 30,000 คัน BYD ยังคงขยายการส่งออกรถยนต์เชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวาง ไม่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมในโซนยุโรป และมีแนวโน้มว่าจะเข้ามาทำตลาดในภูมิภาคอาเซี่ยนของเราด้วย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com