เรียกได้ว่าจัดหนักมากสำหรับ BYD แบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีนหลังจากการเปิดตัว Seal รถยนต์ซีดานพลังงานไฟฟ้า ที่มียอดการจับจองมากกว่า 60,000 คันในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ล่าสุด BYD ได้บรรลุข้อตกลงกับ Hedin Mobility Group ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของบริษัท ในประเทศเยอรมันและสวีเดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับ Hedin Mobility Group (HMG) นั้นเป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลากหลายแบรนด์กว่า 30 แบรนด์ในหลายประเทศในยุโรป และตัวแทนจำหน่ายกว่า 230 แห่งในเยอรมนี สวีเดน เบลเยียม นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยทาง HMG จะทำการจำหน่ายรถยนต์ของ BYD ผ่านตัวแทนจำหน่าย Hedin Bil ในสวีเดน และผู้จำหน่ายรายย่อยในเยอรมัน โดยมีแผนที่จะตั้งโชว์รูม BYD เป็นของตนเองบนเมืองใหญ่ของสองประเทศ โดยตั้งเป้าที่จะเปิดให้ได้ 30 ศูนย์ภายในปี 2025 ทั้งในเยอรมันและสวีเดน
โดยการจำหน่ายในเยอรมันและสวีเดนนั้น HMG จะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ BYD ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าผู้ที่สั่งซื้อตัวรถในช่วงเดือนตุลาคมหรือล็อตแรกๆ ของการเปิดตัว จะสามารถส่งมอบตัวรถได้ก่อนสิ้นปี 2022 นี้ โดยจะเป็นงานนำเข้ามาจากประเทศจีนแบบ 100% โดยจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้วยเงินอุดหนุนยานยนต์ EV ไม่ต่างจากแบรนด์ที่ผลิตในโซนยุโรปแต่อย่างใด
Anders Hedin ซีอีโอของ Hedin Mobility Group กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรของ BYD ในยุโรป Hedin Mobility Group ยินดีที่จะร่วมมือกับ BYD เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานใหม่ในยุโรป”
[adsforwp id=”1302”]
นี้ไม่ใช่ครั้ง CBแรกที่ BYD เข้าสู่ตลาดรถยนต์ยุโรป แต่ก่อนหน้านี้ BYD ได้บรรลุข้อตกลงกับ Louwman Group เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศเนเธอร์แลนด์ และทาง BYD ก็กำลังพิจารณาข้อเสนอของ Inchcape ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายในเบลเยี่ยมและลักเซมเบิร์กอีกด้วย
ในส่วนตลาดรถยนต์เอเชียนั้น BYD ได้ประกาศว่าจะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยจะมีการเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นภายในปี 2023 โดยจะเริ่มจาก Atto 3 ในเดือนมกราคม ต่อด้วย Dolphin ในช่วงกลางปี และปิดท้ายด้วยการนำเสนอ Seal ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 ส่วนตลาดในประเทศอื่นๆ นั้นทางบริษัทยังคงดำเนินการอยู่และคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ และอาจจะมีชื่อของประเทศไทย เป็นหนึ่งในรายชื่อนั้นด้วย ต้องติดตามกันต่อไปครับ
Credit : carnewschina.com
[adsforwp id=”1302″]