เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา BYD ได้ประกาศการมาถึงของโมเดลใหม่อย่าง Seagull รุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยมาพร้อมกับการตั้งราคาใหม่ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม
BYD Seagull 2025 จะเป็นรุ่นปรับปรุงจากรุ่นปี 2024 โดยมีการแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลักๆ เริ่มต้นด้วยรุ่น Vitality Edition ที่จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุน้อยที่สุดในกลุ่ม ด้วยความจุ 30.08 kWh รองรับระยะทาง 305 กิโลเมตรต่อชาร์จ รุ่น Freedom Edition ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาดเท่ากัน แต่จะปรับปรุงในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ และรุ่น Flying Edition ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 38.88 kWh รองรับระยะทาง 405 กิโลเมตรต่อชาร์จ
BYD Seagull 2025 รุ่นใหม่นี้มีให้เลือก 4 สีภายนอก ได้แก่ Arctic Blue, Warm Sun White, Polar Night Black, และ Peach Pink รวมถึงสีภายใน 2 สี ได้แก่ Deep Ocean Blue และ Dune Pink
ตัวรถจะยังคงใช้งาน e-Platform 3.0 โดยจะมาพร้อมกับขนาด 3780/1715/1540 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2500 มิลลิเมตร ในแง่ของขนาดนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้า สำหรับภายนอก สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือที่ด้านหลัง โลโก้ “BUILD YOUR DREAMS” ได้เปลี่ยนเป็นเพียง “BYD” ส่วนการออกแบบด้านหน้ายังคงเหมือนเดิม
ภายในยังคงใช้การออกแบบจากรุ่นก่อนหน้า โดยมีแผงหน้าปัดลอยขนาด 7 นิ้วและหน้าจอควบคุมกลางแบบหมุนได้ขนาด 10.1 นิ้ว จับคู่กับแพลตฟอร์ม BYD DiLink รุ่น Freedom Edition และ Flying Edition มาพร้อมกับแท่นชาร์จไร้สาย และรองรับระบบทำความร้อนที่เบาะนั่งด้านหน้า รวมถึงเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง การกำหนดค่ามาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ การอัปเดต OTA ลำโพงสี่ตัว บลูทูธ การโต้ตอบด้วยเสียง WiFi ในรถ เครือข่าย 4G และระบบเข้าถึงตัวรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
ระบบส่งกำลังจะมาจากมอเตอร์แบบ permanent magnet synchronous ที่มีกำลังสูงสุด 55 แรงม้า (kw) และแรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลือกระบบส่งกำลังในทุกๆ รุ่น มีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 4.9 วินาที รองรับการชาร์จ DC fast charging โดยใช้เวลา 30 นาทีในการประจุไฟจาก 30% เป็น 80%
ในส่วนของราคาจำหน่ายนั้น Vitality Edition จะมีราคาเริ่มต้นที่ 69,800 หยวน หรือประมาณ 342,835 บาท รุ่น Freedom Edition ราคา 75,800 หยวน หรือประมาณ 372,305 บาท ในขณะที่รุ่น Flying Edition จะมีราคาเริ่มต้นที่ 85,800 หยวน หรือราวๆ 421,250 บาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com