ดูเหมือนว่า BYD แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่จากประเทศจีน กำลังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่อีกแล้ว หลังจากเปิดตัวระบบ DM-i รุ่นที่ 5 ไปได้ไม่นาน ก็มีข่าวว่า กำลังจะเปิดตัว Seal 06GT ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่มีตลาดหลักในประเทศจีนและยุโรป
ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น เปิดเผยว่า Seal 06GT ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อตลาดยุโรปโดยเฉพาะ และส่วนหนึ่งเพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตร่วมชาติอย่าง SAIC ที่บุกตลาดยุโรปอย่างหนักด้วยการนำเสนอ MG4 ที่ใช้ SAIC Mulan เวอร์ชั่นในประเทศจีนเป็นฐานในการพัฒนา ซึ่งทาง BYD เองก็มองเห็นประโยชน์จากจุดนี้ เลยอาจจะใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา Seal 06GT ที่ใช้รากฐานจากเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศมาทำการปรับปรุง
BYD Seal 06GT ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากซีรี่ส์ Ocean ของบริษัท มันถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 Evo ใหม่ ซึ่งใช้กับ Seal Lion 07 แพลตฟอร์ม e-platform ใหม่มีกลุ่มเทคโนโลยีหลักห้ากลุ่ม และ BYD วางตำแหน่งให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และชาญฉลาดยิ่งขึ้น
จากข้อมูลของ MIIT ที่ทำให้เราทราบว่า Seal 06GT มีทั้งเวอร์ชันมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ สำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว กำลังมาจากมอเตอร์ขนาด 160 แรงม้า (kw) ซึ่งน่าจะอยู่ที่เพลาล้อหลัง ในกรณีของรุ่นมอเตอร์คู่ ไม่เพียงแต่เพิ่มมอเตอร์ที่ด้านหน้าเท่านั้น แต่ยังแนะนำมอเตอร์ที่ทรงพลังยิ่งกว่าที่ด้านหลังด้วย โดยมอเตอร์หลังจะมีกำลังสูงสุดที่ 200 แรงม้า (kw) ในขณะที่มอเตอร์หน้าจะมีกำลัง 110 แรงม้า (kw)
ในส่วนของแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งหลังงานหลัก จะมีให้เลือกใช้งานสองขนาด ประกอบด้วย 59.52 และ 72.96 kWh สำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว จะมีระยะทางในการวิ่งที่ 505 และ 605 กิโลเมตรต่อชาร์จ (มาตรฐาน CLTC) ในขณะที่รุ่นมอเตอร์คู่นั้นยังไม่มีการเปิดเผยความจุของแบตเตอรี่ แต่เปิดเผยว่าตัวรถจะมีระยะทางในการวิ่งเริ่มต้นที่ 550 กิโลเมตรต่อชาร์จ
ในแง่ของขนาดตัวรถนั้น Seal 06GT จะมีขนาด 4630/1830/1490 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร ซึ่งจะมีขนาดที่กระทัดรัดและจะอยู่ตรงกลางระหว่าง Dolphin และ Seal ผู้ซื้อจะมีตัวเลือกระหว่างล้อขนาด 18 และ 19 นิ้ว และรถมีสปอยเลอร์หลังคาแยกที่ด้านหลังคล้ายกับที่ใช้ใน Sea Lion 07
ในแง่ของการออกแบบนั้น Seal 06GT ดูสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากซีรี่ส์ Ocean ที่ด้านหน้าจะมีส่วนผสมของ Seal พร้อมฝากระโปรง และกระจังหน้าสีดำด้านล่าง มีที่จับประตูแบบซ่อนด้านข้างและเสาสีดำทำให้หลังคาดูลอยตัว สร้างมิติให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องโดยสารอาจจะดูเรียบง่ายไปสักหน่อย ซึ่งจะสะท้อนแนวทางของห้องโดยสารจากผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยมีจุดเด่นที่หน้าจอส่วนหกลางแบบลอยตัว และสามารถหมุนปรับองศาได้ เบาะนั่งแบบสปอร์ตในตัว และพวงมาลัยแบบสามก้านด้านล่างแบน ซึ่งทั้งหมดนนี้ดูคล้ายกับห้องโดยสารจากหลายๆ ผลิตภัณฑ์ จนอาจจะทำให้ดูน่าเบื่อไปสักหน่อย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนมองว่าตัวรถควรจะเปิดตัวในตลาดประเทศจีนด้วยราคา 150,000 ถึง 200,000 หยวน หรือราวๆ 757,000 ถึง 1 ล้านบาทต้นๆ โดยตลาดประเทศจีนคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่ตลาดยุโรปในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 เป็นต้นไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com