Chery ประกาศว่ารถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด Fulwin T8 วิ่งได้ 2,078.6 กิโลเมตร กำลังจะเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดจำหน่ายแบบ PreOrder แล้วในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณราวๆ 5.04 แสนบาท มีให้เลือก 6 รุ่นย่อยด้วยกัน และรูปแบบที่นั่งมีทั้ง 5 และ 7 ที่นั่ง
เมื่อพูดถึง Fulwin T8 แล้ว ในตระกูล T ของซีรีส์ Fulwin จะมีรถ SUV ทั้งหมดด้วยกัน 4 รุ่น ได้แก่ T6, T9 และ T10
Fulwin T8 จะมีความยาว ความกว้าง และความสูง 4730/1860/1747 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,710 มิลลิเมตร
ท้ายรถสามารถปรับได้ถึง 1930 ลิตร
มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะแบบออนบอร์ดระดับ 2.9 ซึ่งรองรับฟังก์ชั่นความปลอดภัย 18 ฟังก์ชั่น รวมถึงการช่วยการขับขี่ออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ และระบบช่วยเหลือการจราจรติดขัด เป็นต้น
ระบบปลั๊กอินไฮบริดมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์แบบดูดอากาศความจุ 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5T ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าและจับคู่กับ DHT เครื่องยนต์แบบดูดอากาศโดยธรรมชาติให้กำลังสูงสุด 75 กิโลวัตต์ (101 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตร ในขณะที่เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จให้กำลัง 115 กิโลวัตต์ (154 แรงม้า) และ 220 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้ามีพละกำลัง 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) และแรงบิด 310 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 208 กม./ชม.
ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตช่วยให้วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนจะได้ระยะทางที่ ที่ 65 กม. และ 130 กม. ตามลำดับ ตามมาตรฐาน CLTC ทางค่ายประกาศว่าระยะทางที่ครอบคลุมมาตรฐานของ WLTC สามารถวิ่งได้ถึง 1,200 กิโลเมตร ในขณะที่ทดลองขับขี่จริง ระยะทางวิ่งเมื่อเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ 2,078.6 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยรวมของมาตรฐาน WLTC ต่ำเพียง 1.3 ลิตร/100 กิโลเมตร
การชาร์จไฟฟ้าสำหรับเครื่องยนต์ 1.5T ใช้เวลา 19 นาที ในการเติมแบตเตอรี่จาก 30% เป็น 80%
ภายในห้องโดยสารจะประกอบไปด้วยไฟสีม่วง รวมกับพวงมาลัยออกแบบเป็นรูปตัว D หน้าจอควบคุมกลางแบบลอยตัวขนาด 15.6 นิ้ว 2.5K และแผงหน้าปัด LCD ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 10.25 นิ้ว นอกจากนี้ ห้องโดยสารยังใช้ระบบขับเคลื่อนแบบอัจฉริยะ Lion5.0 ของ Chery ที่ทำงานบนชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งรองรับผู้ช่วยเสียง AI อีกด้วย
ที่มา :carnewschina.com