Deepal ได้เปิดตัว S07 เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า อย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยมีตัวเลือกทั้งรุ่น EV และ EREV และเป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูง ADS 3.0 SE ที่พัฒนาโดย Huawei
โดยหลักแล้ว Deepal ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ย่อยที่ดูแลโดย Changan Auto และ S07 นั้นเป็นรุ่นปรับปรุงของรถยนต์ที่ก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ Deepal S7 โดยที่รุ่นใหม่นั้นจะมีตัวเลือกที่หลากหลายถึง 10 รุ่น ทั้งรุ่น EV และ EREV โดยแบ่งออกเป็น EV 4 รุ่น และ EREV อีก 6 รุ่น
ภาพรวมของตัวรถ Deepal S07 ด้านหน้าที่ปิดและชุดไฟหน้าเรียวบาง บังโคลนมีชุดไฟโต้ตอบอัจฉริยะซึ่งใช้ LED 696 ดวง ซึ่งสามารถแสดงรูปแบบโต้ตอบที่กำหนดเอง ข้อความถึงคนเดินถนน และการใช้งานอื่นๆได้ ด้านล่างของบังโคลนมีช่องรับอากาศขนาดเล็ก ที่ด้านข้าง Deepal S07 มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และที่เห็นได้ชัดที่สุดคือล้ออัลลอยด์ชุดใหม่ รถคันนี้มีที่จับประตูที่ซ่อนอยู่ และเส้นขอบหน้าต่างที่ยกขึ้นอย่างเฉียบคมไปทางด้านหลัง ด้านหลังมีไฟท้ายแบบยาว และ Deepal S07 มีสปอยเลอร์แบบแยกส่วนที่ติดตั้งบนหลังคา
ในส่วนของมิติตัวรถนั้น ไม่ได้แตกต่างจาก S7 รุ่นก่อนหน้า โดยมีขนาด 4780/1930/1625 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2900 มิลลิเมตร โดยจะมีน้ำหนักที่แตกต่างกันตามขนาดของแบตเตอรี่ที่เลือกติดตั้ง ซึ่งจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 1875, 1950 และ 2025 กิโลกรัม สำหรับรุ่น EREV ในขณะที่รุ่น EV จะมีน้ำหนัก 2 ขนาดคือ 2025 และ 2035 กิโลกรัม
ไฮไลท์ของตัวรถคือห้องโดยสารอัจฉริยะ ที่จะไม่มีหน้าจอแสดงผลส่วนตนขับ แต่มีจอแสดงผลแบบ HUD เป็นมาตรฐาน รถยนต์ทุกรุ่นมีหน้าจออินโฟเทนเมนต์กลางขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K และรุ่นที่มีสเปกสูงกว่านั้นยังเพิ่มหน้าจอความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้วสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าอีกด้วย รุ่นที่มีสเปกสูงสุดจะมีเบาะนั่งแบบไร้แรงโน้มถ่วงสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและคนขับ พร้อมด้วยระบบทำความร้อนและระบายอากาศ เฉพาะผู้โดยสารด้านหน้าเท่านั้นที่มีฟังก์ชันนวด รถยนต์ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งทำให้สามารถใช้คุณสมบัติต่างๆ เช่น การจดจำใบหน้าและการโต้ตอบด้วยเสียงได้ ระบบความบันเทิงของรถยนต์มี QQ Music, Bilibili, iQiyi และแอปจีนอื่นๆ
ในส่วนของฟังก์ชั่น ADS 3.0 SE นั้น จะถูกติดตั้งเฉพาะบนรุ่นท๊อปและรองท๊อปของทั้ง 2 ระบบส่งกำลังซึ่งเป็นระบบขับขี่อัจฉริยะ Huawei รุ่นที่ใช้การมองเห็น ระบบนี้ให้ความช่วยเหลือในการขับขี่ด้วยความเร็วสูงในพื้นที่ต่างๆ เช่น ทางหลวงแผ่นดิน ทางด่วนในเมือง และถนนวงแหวน โดยสามารถเปลี่ยนเลน หลบหลีกสิ่งกีดขวางอัจฉริยะ เข้าโค้งอัจฉริยะ ควบคุมความเร็ว และเข้าและออกจากทางลาดได้ ระบบนี้ยังรองรับระบบจอดรถอัจฉริยะซึ่งอ้างว่ารองรับสถานการณ์จอดรถได้มากกว่า 160 สถานการณ์
ในรุ่น EREV จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ JL473QJ ขนาด 1.5 ลิตรที่มีกำลังสูงสุด 70 แรงม้า (kW) โดยจะปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกใช้ 3 ขนาด ประกอบด้วย 18.99, 31.73 และ 39.05 kWh และจ่ายพลังงานไฟขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 175 แรงม้า (kW) พร้อมกับแรงบิด 320 นิวตันเมตร ในขณะที่รุ่นที่มีสเปกที่สูงขึ้นจะใช้มอเตอร์กำลัง 190 แรงม้า (kW) และแรงบิด 320 นิวตันเมตร ผลการทดสอบ WLTC ตัวรถจะมีอัตราสิ้นเปลือง 5.5, 5.6 และ 5.7 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร และมีระยะทางสูงสุดในการวิ่งด้วยเชื้อเพลิงหนึ่งถังที่ 1045, 1130 และ 1200 กิโลเมตรต่อรอบ
ในขณะที่รุ่น EV จะใช้มอเตอร์ขนาด 190 แรงม้า (kW) และแรงบิด 320 นิวตันเมตร ในทุกๆ รุ่น แต่จะมีการติดตั้งแบตเตอรี่ 2 ขนาดประกอบด้วย 68.82 kWh และ 79.97 kWh โดยจะรองรับระยะทาง 520 และ 628 กิโลเมตรต่อชาร์จ แบตเตอรี่จะเป็นแบบลิเธียมไอออนฟอสเฟตและรองรับการชาร์จ 3C และสามารถชาร์จจาก 30-80% ใน 15 นาที นอกจากนี้ รถยนต์ทุกคันยังรองรับการปล่อยประจุไฟฟ้า 6 KW สำหรับการใช้งานระบบ V2L
สุดท้ายคือเรื่องของราคาจำหน่าย ในรุ่น EV นั้นจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 169,900 – 212,900 หยวน หรือประมาณ 846,720 – 1,060,430 บาท ในขณะที่รุ่น EREV จะมีราคาเริ่มต้นที่ 149,900 หยวน หรือราวๆ 747,060 บาท ไปจนถึง 199,900 หยวน หรือราวๆ 996,250 บาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com