ข้อมูลใหม่จากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) เปิดเผยว่า Denza N7 จะมาพร้อมกับการนำเสนอตัวรถ 2 รูปแบบที่แบ่งแยกตามระบบขับเคลื่อน และขนาดแบตเตอรี่ที่เท่ากัน
[adsforwp id=”1302″]
Denza ถือว่าเป็นแบรนด์ย่อยอีกแบรนด์จาก BYD โดยการก่อตั้งเกิดขึ้นในปี 2014 โดยเป็นการร่วมทุนแบบ 50-50 ระหว่าง BYD และ Daimler (ปัจจุบันเป็น Mercedes-Benz Group) โดยมีผลิตภัณฑ์แรกอย่าง Denza 500 วางจำหน่ายในปี 2018 ในฐานะรถยนต์พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่ด้วยสถานการตลาด ณ ช่วงเวลานั้น ตัวรถได้กระแสตอบรับที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก จนต้องเลือกผลิตในปี 2019 พร้อมกับการถอนหุ้นของ Daimler ออกไปอีก 40% ในปี 2021 ทำให้ ณ ตอนนี้ Denza ถูกถือครองโดย BYD 90%
[adsforwp id=”1302″]
กลับมาที่ Denza N7 จากข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยโดย MIIT ของประเทศจีน ได้ระบุว่าตัวรถจะมีตัวเลือกแบตเตอรี่ขนาดความจุ 91.392 kWh ซึ่งสามารถรองรับการขับขี่ได้ไกลสูงสุด 702 กิโลเมตร จากการทดสอบ CLTC และน้ำหนักบรรทุก 2,320 กิโลกรัม โดยมีมอเตอร์กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (hp) ติดตั้งอยู่ที่เพลาล้อหลัง ซึ่งจะเป็นรุ่นมาตรฐานที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ในขณะที่ตัวเลือกที่สอง จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบ AWD พร้อมกับมอเตอร์คู่ ให้กำลังรวม 530 แรงม้า (hp) โดยที่มีตัวแบตเตอรี่ความจุเท่ากัน แต่จะสามารถวิ่งทำระยะได้ 630 กิโลเมตร (CLTC) และมีน้ำหนักตัวที่มากกว่ารุ่นมาตรฐานไปราวๆ 120 กิโลกรัม
พื้นฐานของตัวรถทั้งสองรุ่น จะใช้เทคโนโลยี CTB (Cell-to-Body) หมายความว่าแบตเตอรี่ของ Denza ถูกรวมเข้ากับเฟรม เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการบิดตัวของรถ นอกจากนี้ N7 จะมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Denza N7 ถือว่าเป็นรุ่นผลิตจริงของรถแนวคิด Denza Inception ที่เปิดตัวในปี 2022 โดยจะมีขนาดความยาว 4,860 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,935 มิลลิเมตร ความสูง 1,602 มิลลิเมตร ตั้งบนฐานล้อขนาด 2,940 มิลลิเมตร ในเรื่องของความปลอดภัยนั้น ตัวรถจะติดตั้งระบบ Devialet เซ็นเซอร์ LiDAR และมือจับประตูแบบยืดหดได้ จะรองรับการชาร์จ 200 kW บนสถานีแบบ AC
Denza N7 จะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนในประเทศจีน โดยทางผู้ผลิตตั้งเป้าหมายที่จะขายเจ้า N7 ให้ได้ 10,000 คันต่อเดือน ซึ่ง ณ ตอนนี้ หลังจากการเปิดจองล่วงหน้าอย่างเป็นทางการในประเทศจีน N7 มียอดสั่งจองล่วงหน้าแล้วถึง 5,367 รายการภายในเวลาเปิดจองเพียง 6 ชั่วโมง ทั้งๆที่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ จึงถือได้ว่าตัวรถนั้นได้รับกระแสตอบรับที่น่าพึงพอใจอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปอีก หากมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับการเปิดเผยข้อมูลอย่างละเอียดในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
[adsforwp id=”1302″]