หลังจากประกาศกลางงาน 2017 North American International Auto Show ในเมืองดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา ผู้ผลิต Ford ได้ประกาศการ Come Back ครั้งใหม่ของราชาออฟโรด Ford Bronco อย่างเป็นทางการ จนถึงปัจจุบันผ่านมาได้เกือบสามปีแล้ว คาดว่าทางผู้ผลิตกำลังเตรียมจะทวงบังลังก์จากเจ้าตลาดอย่าง Jeep Wrangler ในช่วงปลายปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้
[adsforwp id=”198″]
จากภาพแอบถ่ายการทดสอบหลายต่อหลายครั้ง เราจะได้เห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของ Ford Bonco ที่ดูแข็งแกร่งมากขึ้น รวมไปถึงการออกแบบ Boxy Design ที่ให้ความเคารพต่อ Ford Bronco ต้นฉบับ การออกแบบด้านหน้านั้นเรียบง่าย แต่ไร้ความปราณี กระจังหน้าแบบตั้งตรงที่มีคำว่า “Bronco” ตั้งอยู่อย่างภาคภูมิใจในตัวอักษรบล็อกขนาบข้างด้วยไฟหน้าทรงกลม LED กันชนด้านล่างแบบแยกส่วนพร้อมกับกระโปรงหน้าแบนที่มีขอบเด่นชัด
การมองจากด้านข้างจะเน้นหน้าต่างที่ไร้กรอบ, โปรไฟล์สายพาน, กระจกมองข้างที่ติดตั้งเสาและบังโคลนหน้าที่ชัดเจน ช่องว่างด้านบนเสาจะเผยให้เห็นส่วนของหลังคา hardtop แบบถอดได้ ด้านนอกมีการเชื่อมโยงกับ Bronco R ตัวแข่งออฟโรด ไฟท้ายทรงสี่เหลี่ยมสูง ที่นี่เส้นขอบ LED ที่เรืองแสงถูกแบ่งส่วนบางส่วนกับส่วนล่างด้านใน เช่นเดียวกับด้านหน้าด้านหลังยังมีระยะยื่นสั้นๆ เพื่อให้ได้มุมมองในการเข้าโค้งและออกโค้งที่ชัดเจน
[adsforwp id=”198″]
การตกแต่งภายในเป็นการเคารพต่อ Broncoi อย่างชัดเจนเห็นได้ชัดว่ารูปแบบภายในนั้นไม่ได้เป็นการนำเอารูปแบบมาจาก Ford Ranger แดชบอร์ดตั้งตรงพร้อมแผงหน้าปัดแบบดิจิตอลมีคุณสมบัติพื้นผิวที่เรียบและรวมหน้าจอสัมผัสระบบ SYNC ล่าสุดของฟอร์ดซึ่งอยู่ระหว่างช่องระบายอากาศแนวตั้งคู่ ที่น่าสนใจก็คือแดชบอร์ดด้านบนมีการจัดเรียงสวิตช์บอร์ดสำหรับระบบ Locking transfer case, Stop-start และ traction control โดยที่ปุ่มหมุนปรับโหมดการขับขี่ของฟอร์ดอยู่ด้านหลัง เหนือคอนโซล มีฟีเจอร์สวิตช์เกียร์เสริมและระบบ Co-Pilot 360 เป็นมาตรฐาน
ในส่วนของแชสซีรหัส U725 Bronco จะมีให้เลือกสองและสี่ประตูและตั้งอยู่บนแพลตฟอร์ม T6 Ranger ที่ได้รับการปรับปรุง สำหรับผู้ขับขี่ออฟโรดนั้นคาดว่าจะใช้ระบบการจัดการขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ควบคู่กับระบบช่วงล่างด้านหน้าอิสระพร้อมเพลาล้อหลังที่มั่นคง มีรายงานว่ามีอุปกรณ์เสริมมากกว่า 150 รายการมีสิทธิบัตรที่หลากหลายสำหรับ Bronco รวมถึงชุดกระจังหน้าแบบแยกส่วนที่อนุญาตให้ใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นรอกและการติดตั้งไฟสปอต์ไลท์ ในขณะที่มีหลายส่วน ของหลังคาสามารถถอดออกได้เช่นกัน
ในเรื่องของเครื่องยนต์ที่เป็นหัวใจหลักนั้น Ford Bronco คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร EoBoost สี่ลูกสูบ 270 แรงม้า ที่ย่อส่วนมาจากเครื่องยนต์ 2.7 ลิตร Ecobost V6 พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด โดยมีโหมดการขับเคลื่อนทั้งแบบ 2WD และ 4WD
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”198″]