หลังจากเปิดตัวโมเดลต้นแบบ Lightyear One ไปเมื่อหลายปี 2021 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าผู้ผลิตจะพร้อมแล้วสำหรับการนำเสนอรถยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่นๆ กับเจ้า 2023 Lightyear 0 รถยนต์ไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์เต็มรูปแบบ โดยทางบริษัทได้ระบุไวว่าตัวรถจะเข้าสู่กระบวนการผลิตจริงในฤดูใบไม้ร่วงและพร้อมส่งมอบให้กับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าก่อนสิ้นปี 2022 นี้
[adsforwp id=”1302″]
ท้าวความกันสักเล็กน้อย Lightyear เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยหนึ่งสมาชิกผู้ก่อตั้งเป็นอดีตสมาชิกของทีม Solar Team Eindhoven ผู้ชนะเลิศแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ Bridgestpne World Solar Challenge และได้ก่อตั้งบริษัทในรูปแบบสตาร์ทอัพ ที่ใช้การระดมทุนจากผู้ที่สนใจทั้งอิสระและนายทุนใหญ่ จนกระทั่งได้ผลิตรถยนต์ต้นแบบ Lightyear One ขึ้นมาในปี 2020 และผลิตออกมาในรูปแบบของรถ Prototype ในปี 2021
เวลาผ่านมาอีกราวๆ 1 ปี Lightyear One ก็ดูเหมือนจะพร้อมกับการผลิตจริงเสียที โดยมีการใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Lightyear 0 ดดยตัวเลข 0 ที่ระบุหลังรหัสตัวรถนั้นเปรียบเสมือนการเริ่มต้นใหม่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ของบริษัท โดยที่ตัวรถรุ่นการผลิตจริงนั้นจะคงรูปแบบที่เหมือนกับ Lightyear One ตัวต้นแบบแทบจะทุกระเบียดนิ้วทั้งในแง่ดีไซน์และเทคนิค ที่ยังคงชูเรื่องการใช้พลังงานที่ไม่มีวันหมดอย่างพลังงานแสงอาทิตย์
ตามข้อมูลของ Lightyear 0 มีแผงโซลาร์เซลล์ที่กินพื้นที่ 5 ตารางเมตร พาดยาวตั้งแต่กระโปรงหน้าจนถึงหลังคาไปจรดที่ประตูท้าย ซึ่งเป็นรูปแบบที่นำมาจากตัวต้นแบบ รูปร่างของตัวรถจะเน้นความปราดเปรียว โดยที่ตัวรถรุ่นการผลิตจริงนั้นก็มีการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องของงานดีไซน์เล็กน้อย โดยจะเห็นได้ว่า รูปร่างและสัดส่วนของไฟหน้ามีการเปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับไฟตัดหมอกและไฟท้ายที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ซึ่งจะให้อารมณ์ที่พริ้วไหวมากกว่าเดิม
จากเอกสารที่บริษัทได้ระบุไว้ ตัวรถ 2023 Lightyear 0 จะมีค่าสัมประสิทธิการลากที่ต่ำมากๆ เพียง 0.19 โดยส่วนหนึ่งที่มีค่าที่ต่ำเกิดจากอุปกรณ์ใหม่ที่ติดตั้งที่บริเวณล้อหลัง ที่ช่วยป้องกันการตีย้อนของลมในขณะขับขี่ ร่วมกับฝาครอบล้อช่วยเสริมการไหลเวียนของอากาศรอบๆ ตัวรถ เช่นเดียวกับงานออกแบบส่วนอื่น ตัวรถจะเน้นการออกแบบที่อิงตามหลัก Aerodynamic เป็นส่วนใหญ่ จะสังเกตได้ว่าตัวรถจะไม่มีส่วนของกระจกมองข้าง ที่เป็นอุปสรรคต่อการแหวกอากาศ โดยทางผู้ผลิตเลือกที่จะใช้งานกล้องมองมองภาพ ติดตั้งที่บริเวณเยื้องซุ้มล้อ และยังมีกล้องมองหลังในทิศทางตรงเพื่ออำนวยความสะดวกในการขับขี่อีกด้วย
[adsforwp id=”1302″]
ในส่วนของมิติตัวรถนั้น 2023 Lightyear 0 จะมาพร้อมกับความยาว 5,083 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,972 มิลลิเมตร ความสูง 1,448 มิลลิเมตร ซึ่งจะมีมิติที่ต่างจาก Lightyear One ตัวต้นแบบที่มีความยาว 5,057 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,898 มิลลิเมตร ความสูง 1,426 มิลลิเมตร แต่ที่น่าสนใจคือน้ำหนักตัวรถที่ถึงแม้ว่าจะมีมิติที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็มีน้ำหนักตัวที่1,575 กิโลกรัม เท่ากับตัวต้นแบบ โดยส่วนหนึ่งแล้วน้ำหนักตัวที่ดูน้อยนี้ เกิดจากการเลือกใช้วัสดุในการผลิตที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ จึงทำให้น้ำหนักตัวรถที่ไม่มากนั่นเอง
จากข้อมูลของผู้ผลิตระบุว่าแผงโซล่าร์เซลส์ที่ติดตั้งบนตัวรถนั้นจะให้พลังงานในการเดินทางได้ 43.5 ไมล์ หรือราวๆ 70 กิโลเมตร และสามารถประจุไฟไปพร้อมๆ กับการขับขี่ได้ ซึ่งทางผู้ผลิตได้เคลมไว้ว่า ตัวรถจะมีคุณสมบัติในการประจุไฟด้วยการตากแดดเพื่อรับพลังงาน 2 ชั่วโมง ตัวรถก็จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 20 กิโลเมตร
อาจจะดูเป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ผู้ผลิตก็มีทางออกให้กับเจ้าของด้วยการติดตั้งชุดแบตเตอรี่ขนาด 60 kWh ที่จะชาร์จพลังงานด้วยการเสียบปลั๊ก ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังงานแยกส่วนกับแผงโชล่าร์เซลส์ โดยจะสามารถวิ่งต่อไปได้ 570 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว และสามารถวิ่งทำความเร็วต่อเนื่อง บนความเร็วเฉลี่ย 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนระยะทาง 550 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นจากการทดสอบมาตรฐาน WLTP ตัวรถ Lightyear 0 จะมีระยะทางที่สามารถวิ่งได้ทั้งสิ้น 388 ไมล์ หรือราวๆ 624.4 กิโลเมตรเลยทีเดียว
แต่ในการวิ่งจริงๆ แล้ว พลังงานที่ได้จากแผงโชล่าร์เซลส์นั้น จะส่งกำลังขับไปยังมอเตอร์ ซึ่งจะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 6.2 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเป็นความเร็วที่ต่ำมากๆ และดูเหมือนว่าจะลดลงจากตัวต้นแบบที่ระบุไว้ว่าจะสามารถวิ่งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวบนความเร็วสูงสุด 7 ไมล์ต่อชั่วโมง (11.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งดูแล้วจะเหมาะกับการขับขี่ในการจารจรที่ติดขัดและใช้ความเร็วต่ำเป็นหลัก แต่ก็น่าประทับใจในแง่ของการประหยัดพลังงานเป็นอย่างมาก
ในส่วนของขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้านั้น 2023 Lightyear 0 จะติดตั้งมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า 4 ตัว ที่ล้อทั้ง 4 โดยจะเป็น Motor in Wheel ซึ่งข้อมูลจาก Lightyear One ตัวต้นแบบที่เปิดเผยมานั้น ตัวรถจะมีกำลังรวม 136 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 885 Ib-Ft โดยมีคุณสมบัติในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 10 วินาที โดยทางผู้ผลิตเองก็ยังไม่ได้อ้างถึงตัวเลขนี้ในรุ่นการผลิตจริง แต่คาดว่า Lightyear 0 จะมีตัวเลขกำลังที่ไม่หนีจากตัวต้นแบบไปมากนัก
จุดแข็งที่เป็นจุดเด่นของโมเดลนี้ก็คือ ความเร็วในการประจุไฟ ด้วยตัวรถที่มีขนาดแบตเตอรี่ที่ไม่ใหญ่มาก เพียง 60 kWh ตัวรถจะมีคุณสมบัติในการรองรับระบบการชาร์จไฟที่หลากหลาย ทั้งจากไฟบ้านมาตรฐาน สถานีไฟกระแสตรง DC และระบบ Fast Charge ด้วยรองรับกำลังไฟสูงสุด 240V Level 2 ซึ่งทางผู้ผลิตได้กล่าวอ้างว่า การชาร์จด้วยกระแสไฟบ้านมาตรฐาน (AC) จะใช้ทำให้ตัวรถวิ่งได้ไกล 32 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง การชาร์จด้วยกระแสไฟ DC มาตรฐานสถานีทั่วๆ ไป จะใช้เวลา 1 ชั่วโมงเพื่อทำระยะ 200 กิโลเมตร และบนสถานี Fast Charge กระแสไฟ 220V จะสามารถวิ่งได้ไกล 500 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จไฟเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
สำหรับการจำหน่ายนั้น 2023 Lightyear 0 เปิดให้ทำการสั่งจองล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีตัวเลือกสีตัวถังมากถึง 10 สี และมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 255,000 ยูโร หรือประมาณ 9.3 ล้านบาท โดยราคานี้ยังไม่รวมค่าจัดส่งและภาษีน้ำเข้า โดยการผลิตนั้นจะเริ่มต้นขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง (สิงหาคม-กันยายน) และจะทำการทะยอยจัดส่งให้ลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าล็อตแรกภายในสิ้นปี 2022 นี้ ถ้าสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ The Lightyear ได้เลย
โดยสรุปแล้วดูเหมือนว่า 2023 Lightyear 0 จะเป็นรถยนต์ BEV ที่มีส่วนขยายช่วงแบตเตอรี่ด้วยพลังงานจากแผงโซล่าร์เซลส์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ดูจะเสริมการใช้งานในรูปแบบของการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่มีการจารจรที่หนาแน่น ถึงแม้ว่าจะมีการขยายช่วงของแบตเตอรี่และความสามารถในการรีชาร์จไฟของแผงโซล่าร์เซลส์ ก็ยังดูไม่เหมาะกับการขับขี่แบบยิงยาวๆ บนระยะทางไกลๆ อยู่ดี สาระสำคัญของระบบโซล่าร์เซลส์นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงการเสริมระยะให้ขับขี่ได้ไกลมากขึ้น และช่วยประหยัดพลังงานในแบตเตอรี่ ขณะขับขี่บนการจารจรที่หนาแน่นมากกว่า
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]