จากที่เคยมีการกะเก็งกันว่าทางบริษัท Great Wall Motors ยักษ์ใหญ่จากแดนมังกรที่เข้ามาเทคโอเวอร์โรงงานผลิตของทาง Chevrolet ในประเทศไทยนั้น จะมีการเปิดแบรนด์ต่างๆ อย่างเป็นทางการในบ้านเราที่งาน Motor EXPO 2020 ต้นเดือน ธันวาคมนี้ แต่แล้วล่าสุดเมื่อมีการเปิดเผยรายชื่อของค่ายรถที่จะมาร่วมงานนี้ กลับยังไม่มีชื่อของทาง Great Wall Motors แต่อย่างใด
[adsforwp id=”1302″]
ทาง Great Wall Motors นั้นได้มีแบรนด์ย่อยในเครือทั้งหมดอยู่ 4 แบรนด์ในตอนนี้คือ Wey ที่จะเน้นการผลิตรถ SUV แบบ Luxury (หรูหรา), Haval เน้นการผลิตรถ SUV ในราคาที่คุ้มค่า แต่สเปคมาเต็ม, GWM PICKUP ที่จะเน้นการผลิตรถกระบะ และ ORA ที่จะเน้นการผลิตรถไฟฟ้า
[adsforwp id=”1302″]
โดยรุ่นที่โดดเด่นของแต่ละแบรนด์จะมีดังนี้
Wey VV7 – รถ SUV แบบพรีเมี่ยม เน้นเส้นสายในการออกแบบที่มีกลิ่นอายของรถสไตล์ยุโรปอย่างเต็มตัว ที่จะเรียบง่ายแต่หรูหรา ขับเคลื่อนด้วยขุมกำลัง 2.0 ลิตรเบนซินเทอร์โบ 4 สูบ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดตรง Direct injection ให้แรงม้าสูงสุดถึง 234 HP ที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 360 นิวตันเมตรที่ 2,200 – 4,000 รอบต่อนาที โดยที่ความเร็วสูงสุดนั้นจะทำได้ที่ 205 กม./ชม. ในส่วนของถังน้ำมันนั้นจุมาให้อยู่ที่ 65 ลิตร และมีฟีเจอร์ที่ให้มาแบบเต็มๆ คัน
Haval H6 – รถ SUV ขนาดใหญ่ (มิติพอๆ กันกับ CR-V และ CX-5) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุดมาอยู่ที่ 169 ตัว และยังจะมีเครื่อง 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้เลือกในรุ่นท็อปด้วย มิติของตัวรถจะมีขนาดยาว 4,653 มม. กว้าง 1,886 มม. และสูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อจะอยู่ที่ 2,738 มม. โดยจะมากกว่ารุ่นเดิมไปถึง 58 มม. ด้วยกัน พร้อมฟีเจอร์แบบจัดเต็ม
GWM PICKUP PAO – รถกระบะเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเทอร์โบชาร์จขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุดที่ 190 ตัว และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 360 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นรุ่นที่เปิดตัวกันแล้วในตอนนี้ และจะมีรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์แบบดีเซลให้เลือกด้วย ซึ่งจะเป็นเครื่องแบบ 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 166 ตัว ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจากแบรนด์ ZF โดยจะมีโหมดในการขับขี่ให้เลือกมากถึง 7 โหมดด้วยกันอย่าง โหมดประหยัดน้ำมัน, โหมดมาตรฐาน, โหมดสปอร์ต, โหมดการลุยหิมะ, โหมดการลุยโคลน, โหมดการลุยทราย และโหมดขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ
ORA ES11 – เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ทั้งคัน ทำให้มันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงานรวมไปถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเมื่อเทียบกับรถแบบเครื่องยนต์สันดาปทั่วไปด้วย และได้มีการเคลมว่าในการชาร์จแบตเตอรี่ (แบบลิเธียมไอออน) เต็มความจุ 1 ครั้ง จะสามารถวิ่งได้ไกลมากถึง 400 กม. ด้วยกัน และสามารถใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นต่ำประมาณ 30 นาทีเท่านั้น เพื่อให้ได้ความจุไฟฟ้าตั้งแต่ 30 – 80% กันเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้และแหล่งจ่ายไฟ ซึ่งดูแล้วมันก็เหมาะสมสำหรับการใช้งานในเมืองในชีวิตประจำวันเอามากๆ หรือแม้แต่จะเดินทางท่องเที่ยวในระยะที่ไม่ไกลมากก็เอาอยู่
ดังนั้นแล้วอย่างเร็วที่สุดที่จะมีการเปิดแบรนด์ทั้ง 4 ของทาง Great Wall Motors อย่างเป็นทางการในไทยนั้น ก็คาดว่าจะเป็นในช่วงงาน Motor Show 2021 ประมาณเดือนมีนาคมในปีหน้า หรือไม่ก็อาจจะมีการจัดงานเปิดแบรนด์ด้วยตัวเองกันเลย หากมีความคืบหน้าทางเราจะรีบมาอัพเดทให้ทราบกันโดยเร็ว
[adsforwp id=”1302″]