กระแสข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุด ได้มีการคาดการณ์ว่าทางบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Great Wall Motors ที่เข้าเทคโอเวอร์โรงงานของ Chevrolet ในไทยเมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมานั้น เตรียมที่จะเปิดตัวแบรนด์ในเครือของตัวเองอย่าง Haval อย่างเป็นทางการในไทยเร็วๆ นี้ พร้อมกับแนะนำรถ SUV รุ่นใหม่ 2 รุ่นประเดิมทำตลาดด้วยกันอย่างรุ่น H6 และ F7!
[adsforwp id=”1302″]
โดยสำหรับ All New Haval H6 นั้น เป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ (ไซส์พอๆ กันกับ CR-V และ CX-5) ที่มียอดขายอันดับ 1 ในประเทศจีนล่าสุด ซึ่งมันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุดมาอยู่ที่ 169 ตัว และยังจะมีเครื่อง 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้เลือกในรุ่นท็อปด้วย มิติของตัวรถจะมีขนาดยาว 4,653 มม. กว้าง 1,886 มม. และสูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อจะอยู่ที่ 2,738 มม. โดยจะมากกว่ารุ่นเดิมไปถึง 58 มม. ด้วยกัน
[adsforwp id=”1302″]
การเดินเส้นสายโดยรวมของตัวรถจะเน้นความทันสมัย ตามแนวทางของรถ SUV ในยุคนี้ ในขณะที่ส่วนของตัวถังนั้นก็ได้รับการออกแบบกันมาใหม่ด้วย พร้อมด้วยฟีเจอร์ช่วยเหลือด้านความปลอดภัยอย่างครบครัน และมิติภายนอกและภายในของตัวรถนั้น จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า H6 โฉมก่อนหน้านี้ เน้นการใช้งานที่สะดวกสบาย และการขับขี่ที่สนุก
และสำหรับ All New Haval F7 นั้นจะเป็นรถทรง SUV ขนาด 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับขุมกำลัง 2 ขนาดให้เลือกคือ ขนาด 1.5GDIT เทอร์โบ ให้แรงม้าสูงสุด 169 ตัว ให้แรงบิดสูงสุดที่ 285 NM และเครื่องยนต์ 2.0GDIT เทอร์โบ ให้แรงม้าสูงสุด 224 ตัว แรงบิดสูงสุด 358 NM
เครื่องยนต์ทั้งคู่นั้นจะทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบดูอัลคลัทช์ DCT และขับเคลื่อน 4 ล้อ four-wheel drive system ซึ่งทางค่ายเคลมไว้ว่าในรุ่นท็อปเครื่อง 2 ลิตรนั้น สามารถทำความเร็วตั้งแต่ 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียงแค่ 7.5 วินาทีเท่านั้น รวมไปถึงโหมดการขับขี่ถึง 6 โหมด อย่างโหมด Standard (มาตรฐาน), Sport (เน้นความแรง), Mud (ลุยโคลน), Sand (ลุยทางฝุ่นทางทราย), Snow (ลุยหิมะ) และ ECO (ประหยัดน้ำมัน) หน้าจอแสดงผลภายในตัวรถจะเป็นแบบ LCD ขนาด 7 นิ้วสำหรับแดชบอร์ด และขนาด 9 นิ้วสำหรับการแสดงผลมัลติมีเดียต่างๆ ซึ่งรองรับระบบทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนั้นยังเสริมระบบความปลอดภัยด้วย Air Bag ถึง 6 ลูกด้วยกัน, ระบบป้องกันการชน, เบรก ABS และระบบกล้องมองรอบคัน
ส่วนภายในตัวรถนั้นจะประกอบไปด้วย กระจกมองหลังแบบปรับแสงอัตโนมัติ, เกียร์อัจฉริยะ Intelligent Gear Shifter, เบาะนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, หน้าจอแสดงผล Multi Media ขนาด 9 นิ้ว, หน้าจอแสดงสถานะต่างๆ ของตัวรถแบบ High-resolution, หลังคาแบบพาโนรามิก ซันรูฟ
โดยราคาของ All New Haval H6 ในจีนจะเริ่มต้นที่ประมาณ 450,000 บาท ส่วน All New Haval F7 นั้นจะเริ่มต้นในจีนที่ประมาณ 500,000 บาท น่าสนใจทีเดียวว่าทาง GWM จะเซ็ทราคาในไทยสำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้อย่างไรบ้าง? (ประกอบในโรงงานไทยที่ระยอง) ซึ่งแน่นอนว่ามันน่าจะต้องแพงกว่าโครงสร้างราคาในจีนไปในระดับหนึ่ง ด้วยเรื่องของฐานภาษีรถยนต์ในบ้านเรา ฯลฯ แต่หากว่ามันจะแพงกว่าในจีนไปสักประมาณ 100,000 – 150,000 บาท ก็ยังนับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเอามากๆ เพราะมันก็จะไปมีราคาพอๆ กันกับรถ B-Segment ในบ้านเราอย่างพวก City, Vios ตัวกลาง แต่นี่จะได้รถ SUV เต็มรูปแบบมาเลย มารอติดตามลุ้นกันในเร็วๆ นี้!