กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผู้ผลิตยานพาหนะระดับโลกที่ประกาศชัดเจนกับแผนงานในอนาคต โดยล่าสุด Honda พึ่งจะมีการแถลงนโยบายในอนาคต โดยประกาศเตรียมยกเลิกการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในทุกรุ่น และเดินหน้าสู่ยานพาหนะรูปแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2040
[adsforwp id=”1302″]
โดยแผนงานระยะกลางของ Honda คือการผลักดันผลิตภัณฑ์รูปแบบพลังงานไฟฟ้าสู่ตลาดโลก โดยมีเป้าหมายในการสร้างยอดขายคิดเป็น 40% จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ภายในปี 2030 ขยับขึ้นไปเป็น 80% ในปี 2035 และเต็มรูปแบบ 100% ในปี 2040 ซึ่งจะเห็นได้ว่าทาง Honda เองคิดแบบเป็นขั้นบันได ไม่ใช่การตัดตอนยกเลิกการผลิตเครื่องยนต์สันดาปแบบทันทีทันใด แต่จะค่อยๆ ลดการผลิต และสร้างความคุ้นชินให้กับผู้บริโภค ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์โดยรวมทั้งต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์
ไม่เพียงเท่านั้น Honda ยังเดินหน้าโครงการพัฒนาระบบ ADAS (advanced driver assistance systems) ด้วยวงเงินกว่า 5 ล้านล้านเยน (1.46 ล้านล้านบาท) เพื่อพัฒนาระบบช่วยเหลือคนขับ โดยจุดประสงค์หลักเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตบนยานพาหนะ Honda ให้ได้มากที่สุดหรือเท่ากับ 0 ภายในปี 2050 โดยวงเงินในการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นวงเงินแบบไม่มีการปรับตัวตามค่าครองชีพ หรืออัตราเงินที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในอนาคต เรียกได้ว่ายอมจ่ายแบบเต็มๆ แบบไม่ลดจำนวน โดยวางแผนให้ในปี 2030 ยานพาหนะทุกคันของ Honda จะมีการติดตั้งระบบ ADAS ทุกรุ่นทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์
[adsforwp id=”1302″]
กลับมาที่การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันบ้าง Honda เองกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 2 รุ่นร่วมกับ General Motors โดยใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Ultium ของ GM โดยที่โมเดลแรกจะเปิดตัวภายใต้ชื่อแบรนด์ Honda และอีกหนึ่งรุ่นจะเป็นของ Acura โดยทั้งสองรุ่นจะเปิดตัวอย่างช้าภายในปี 2024 ที่จะถึงนี้
ในขณะเดียวกัน Honda กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มไฟฟ้าใหม่ที่เรียกว่า e: Architecture โดยทางผู้ผลิตกำลังทำการวิจัยแบตเตอรี่แบบ Solid-State ซึ่งหวังว่าจะพร้อมสำหรับการผลิตเป็นจำนวนมากในช่วงใกล้ๆ นี้ เช่นเดียวกับเชื้อเพลิงทางเลือกอย่างไฮโดนเจน ซึ่งทางบริษัทมองว่าเป็นโซลูชั่นที่ใช้งานได้ไม่เพียงแต่สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับไปใช้สำหรับรถบรรทุกเชิงพาณิชย์หรือเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าทั้งแบบติดตั้งคงที่และแบบเคลื่อนที่ ซึ่งทาง Honda เองก็กำลังพัฒนาระบบเชื้อเพลิงนี้อยู่เหมือนกัน
ทุกวันนี้เมื่อ Honda ก้าวไปอย่างช้าๆ ผลลัพธ์ก็มีค่ารออยู่เสมอ ระบบส่งกำลังแบบไฮบริดที่ใช้ในรถยนต์อย่าง Accord และ CR-V นั้นยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับ Insight รถยนต์สองที่นั่งที่เคยเอาชนะ Toyota Prius มาแล้ว แต่การสะดุดในช่วงแรกของการพัฒนาทำให้ในปัจจุบัน Toyota กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีไฮบริดมากที่สุด และถึงแม้ว่า Honda เองช้ากว่าคู่แข่งหลายรายในการใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดเล็ก แต่ในท้ายที่สุดทุกอย่างก็พิสูจน์แล้วว่าผลิตภัณฑ์จากค่ายปีกนกนั้นคุ้มค่ากับการรอคอย
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]