Honda CR-V รถ SUV ขนาดกะทัดรัดยอดนิยม กำลังจะมีตัวเลือกระบบส่งกำลังในรูปแบบใหม่ สำหรับปี 2025 โดยจะเป็นการใช้งานเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่สามารถเสียบปลั้กเพื่อชาร์จไฟได้
ปัจจุบัน Honda CR-V เป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่มียอดจำหน่ายที่สูงมาก และได้รับการชื่นชมจากบรรดากูรูสายยานยนต์มากมาย และสามารถคว้า 10 รางวัลยอดเยี่ยมประจำปี 2023 ที่ผ่านมา จากสื่อชั่นนำทั่วโลก ตัวรถจะมีระบบส่งกำลังให้เลือก 2 รูปแบบประกอบด้วย เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริด e:Hev
ในขณะที่โมเดลสำหรับปี 2025 นั้น ตัวรถจะเพิ่มระบบส่งกำลังใหม่ โดยใช้ชื่อเรียกว่า e:FCEV นำเสนอโมดูลเซลล์เชื้อเพลิงเจเนอเรชันที่สองของบริษัท โดยจะมีถังเชื้อเพลิงจำนวนสองถัง จะติดตั้งอยู่ใต้เบาะนั่งแถวที่สอง และใต้พื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระด้านหลัง ซึ่งเชื้อเพลิงไฮโดรเจนนี้จะถูกบีบอัดไปยังหน่วยเซลล์เชื้อเพลิงซึ่งจะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าไปเก็บยังแบตเตอรี่ขนาด 17.7 kWh และใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า
Honda กล่าวว่า CR-V e:FCEV มีกำลังสูงสุด 174 แรงม้า (hp) และแรงบิด 229 Ib-Ft แม้ว่าไม่มีการกล่าวถึงการประมาณการประสิทธิภาพ แต่สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมหรือ EPA ประมาณการว่า SUV ที่เติมไฮโดรเจนนั้นมีระยะการขับขี่ 270 ไมล์ หรือประมาณ 435 กิโลเมตร และคาดว่าแบตเตอรี่ขนาด 17.7 lWh นั้น จะสามารถประคองตัวรถให้วิ่งได้สูงสุดที่ 29 ไมล์ หรือประมาณ 46 กิโลเมตรต่อรอบ
เพื่อรองรับการเพิ่มระบบเซลล์เชื้อเพลิง ผู้ผลิตได้เปิดเผยว่า มีการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านข้างด้านหลังของ CR-V 10% และความแข็งแกร่งด้านแรงบิดด้านหลังขึ้น 9% นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงเรื่องของระบบกันสะเทือนใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้รับการปรับปรุงด้วยเหล็กกันโคลง แดมเปอร์ และสปริงที่แตกต่างกัน ตัวรถทุกคันใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 235/60R-18 ขนาดส่วนที่เหลือของโมเดลไฮโดรเจนนั้นแทบจะเหมือนกันกับรุ่นมาตรฐาน แต่ขนาดของตัวรถนั้นจะยาวขึ้นกว่า 2.8 นิ้ว
Honda CR-V e:FCEV 2025 จะมีหน้าตาที่แตกต่างจากรุ่นพี่เล็กน้อย แผงตัวถังทั้งหมดที่อยู่ด้านหน้าเสา A นั้นแตกต่างกัน โดยมีไฟหน้าใหม่ตั้งอยู่เหนือกระจังหน้าขนาดใหญ่ด้านล่างที่มีช่องรับอากาศแยกจากกันทั้งสองด้าน ผู้ผลิตกล่าวว่ายังได้ปรับแต่งแอโรบิตต่างๆ และปรับแต่งประตูท้ายของ CR-V ให้เข้ากับองค์ประกอบสีขาวในไฟท้ายแนวตั้ง
ภายใน CR-V e:FCEV ดูไม่แตกต่างกันมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ มีปุ่มเปลี่ยนเกียร์แบบใหม่บนคอนโซลกลาง และเห็นได้ชัดว่ามีพื้นที่ในห้องเก็บสัมภาระน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากมีถังไฮโดรเจน ทางผู้ผลิตงไม่ได้เปิดเผยปริมาณการบรรทุกสุมภาระหรือพื้นที่ผู้โดยสารเบาะหลัง ดังนั้นเราจึงไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ดี Honda กำลังจะนำร่องการใช้งานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนบน CR-V e:FCEV ในสหรัฐ ด้วยการเปิดให้มีการเช่าขับตัวรถ CR-V e:FCEV ในช่วงปลายปี 2024 นี้ แต่จะมีการจำกัดการเช่า โดยจะให้เช่าใช้งานเฉพาะในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น ตามรายงานของสื่อจากอเมริกา ตัวรถ Honda CR-V e:FCEV จะถูกผลิตในโรงงานที่ Honda Performance Manufacturing Center ในเมือง Marysville, Ohio ในขณะเดียวกัน โมดูลเซลล์เชื้อเพลิงถูกสร้างขึ้นที่โรงงานในเมือง Brownstown รัฐ Michigan โดยเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับ General Motors
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.caranddriver.com