เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วก่อนหน้านี้ สำหรับรถยนต์ SUV 3 แถวที่นั่งรุ่นเรือธงของทาง Honda ในตลาดอเมริกา กับเจ้า Pilot โมเดลปี 2023 ที่มีการอัพเดตรูปลักษณ์ภายนอกให้ทันสมัย ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพในการใช้งาน
[adsforwp id=”1302″]
Honda Pilot รุ่นปี 2023 นับได้ว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของผลิตภัณฑ์ โดยภาพรวมของงานออกแบบภายนอกนั้น ทางผู้ผลิตได้จัดการแก้ไขใหม่ทั้งหมด โดยสามารถลบภาพรถ SUV ทรงกล่องที่มีความเหลี่ยมออกไป ทดแทนด้วยเปลือกนอกใหม่ที่มีความโค้งมนมากขึ้น แต่ก็ยังรักษาเสน่ห์ของ Pilot รุ่นก่อนหน้าไว้ ด้วยกระจังหน้าและเรือนกระจกตั้งตรง บังโคลนที่หนา และฝากระโปรงที่ใหญ่ที่สุดที่เคยใช้กับรถของทางค่าย แนวหลังคายังคงมีความโฉบเฉี่ยวและช่องระบายอากาศกันชนแนวตั้งช่วยระบายอากาศรอบๆ รถเพื่อรักษาประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์
[adsforwp id=”1302″]
ส่วนรายละเอียดเล็กน้อยๆ ที่น่าสนใจบนตัวรถ จะมีขอบหน้าต่างที่ลบมุม เสา C แบบนูน ซึ่งทำให้ระลึกถึง Pilot รุ่นที่สอง ด้านหน้ามีความคล้ายคลึงบางอย่างกับ CR-V โดยที่ไฟหน้าแบบเหลื่อมเข้ากับกระจังหน้าเชิงมุมขนาดใหญ่แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว Pilot มีรูปลักษณ์ของตัวเอง โดยเน้นที่เสา C ที่ไม่มีการผสานรวมที่ช่วยให้รถรู้สึกสูงขึ้น เหลี่ยมขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น
ภายในตัวห้องโดยสารนั้น ทางผู้ผลิตได้ผสมผสานสัญญาณบางอย่างของรุ่นก่อนเข้ากับสไตล์ของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของทาง Honda โดยสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับเราพอสมควรก็คือการเลือกใช้งานช่องปรับอากาศแบบดั่งเดิม แทนที่จะใช้งานช่องระบายอากาศแบบตาข่ายยาว เหมือนที่เราเห็นใน Civic ใหม่ ไปจนถึง HR-V รวมถึงช่องเก็บของกว้างที่ครอบคลุมพื้นที่เหนือช่องเก็บของหน้ารถ ระบบสาระบันเทิงได้รับการอัพเกรดเช่นกัน
ในส่วนของอุปกรณ์ในห้องโดยสารจะประกอบไปด้วย หน้าจอ Infotainment System จะมีขนาด 7.0 นิ้วเป็นมาตรฐาน ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าไป 1 นิ้ว เช่นเดียวกับหน้าจอแสดงผลส่วนคนขับที่ปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 1 นิ้ว เป็น 9.0 นิ้ว ไม่เพียงเท่านั้น ห้องโดยสารนั้นซ่อนคุณสมบัติที่ค่อนข้างเรียบร้อยซึ่งจะทำให้การเดินทางแบบครอบครัวง่ายขึ้น นอกจากชั้นเก็บของผู้โดยสารแล้ว คอนโซลกลางยังใหญ่กว่าเดิม และมีที่วางแก้วทั้งหมด 14 ใบ รอบๆ ห้องโดยสาร เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
มาดูมิติในห้องโดยสารกัน Honda Pilot MY 2023 นั้นจะมีพื้นที่ที่กว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เบาะนั่งตรงกลางปรับเอนได้ 10 องศา เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ปรับได้เพียง 6 องศา และเอนไปด้านหน้าได้ไกลขึ้นเพื่อให้เข้าถึงเบาะหลังสุดได้ง่ายขึ้น ตัวรถสามารถรองรับผู้โดยสารทั้งหมดได้สูงสุด 8 ท่านรวมคนขับ โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่มากถึง 22.4 ลูกบาศก์ฟุต อีกทั้งยังสามารถขยายด้วยการพับเบาะที่นั่งแถวสองและสาม ให้ได้ความจุสูงสุด 113.7 ลูกบาศก์ฟุต ซึ่งจัดว่ามีพื้นที่มากที่สุดในกลุ่ม SUV 3 แถวที่นั่ง เทียบเคียงกับ Chevrolet Traverse เลยทีเดียว
ในส่วนของขุมกำลังนั้น Honda Pilot MY 2023 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 285 แรงม้า ควบคู่กับแรงบิดสูงสุด 262 Ib-Ft ซึ่งจัดได้ว่าเป็นตัวแรงที่สุดของ Segment SUV ที่ผลิตโดย Honda ตัวเครื่องยนต์เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 10 สปีด โดยจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นมาตรฐาน และมีตัวเลือกระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ในเกรดที่สูงขึ้น
ส่วนการตัดเกรดรุ่นต่างๆ ของตัวรถนั้น Honda Pilot รุ่นปี 2023 จะเริ่มต้นด้วยเกรด Sport ขยับต่อไปที่ EX, EX-L, Trailsport, Touring และปิดท้ายด้วย Elite โดยระบบขับเคลื่อน AWD จะเริ่มต้นในเกรด Trailsport เป็นต้นไป โดยทางผู้ผลิตได้ทำการอัพเดทซอฟแวร์ในการควบคุมระบบ AWD ใหม่ทั้งหมด โดยสามารถปรับอัตราแรงบิดของล้อหลังจาก 70% มาตรฐานเป็น 75% โดยอัตโนมัติเมื่อระบบตรวจเจอการใช้งานคันเร่งที่สูงขึ้น หรือเมื่อมีค่าตัวแปลที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ส่วนในรุ่น Trailsport ที่เน้นการใช้งานแบบ Off-Road จะมาพร้อมกับขอบล้อขนาด 18 นิ้ว ซึ่งจะสร้างพื้นที่ใต้ซุ่มล้อ เพื่อให้สามารถติดตั้งยางแบบ All-Terrain ได้ โดยขอบล้อมาตรฐานของเกรดอื่นๆ จะมีให้เลือกระหว่าง 19-22 นิ้ว ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้ร่วมกันในทุกๆ เกรด จะมีระบบกล้อง 360 องศา ในขณะที่การทำงานเพื่อการสอดส่องสภาพภายนอกตัวรถนั้น จะเริ่มทำงานตั้งแต่รถจอดนิ่งๆ และจะตัดการทำงานเองอัตโนมัติเมื่อพบว่าตัวรถวิ่งด้วยความเร็วเกิน 15 ไมล์ต่อชั่วโมง (24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และจะเริ่มทำงานอัตโนมัติอีกครั้ง เมื่อตัวรถลดความเร็วลงมาต่ำกว่า 12 ไมล์ต่อชั่วโมง (19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
ส่วนของราคาจำหน่ายนั้น Honda Pilot รุ่นปี 2023 จะเริ่มต้นจำหน่ายในราคา 39,375 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.471 ล้านบาท ซึ่งต้องบอกเลยว่าราคาค่าตัวค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่งโดยตรงอย่าง Ford Explorer Timberline, Nissan Pathfinder Rock Creek และ Grand Cherokee L ไปพอสมควร
Credit : www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]