ผลวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์เศรษฐกิจจากสื่อใหญ่ ชี้ให้เห็นว่า Hyundai ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ กำลังจะได้กำไรจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2022 เป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านล้านวอน หรือราวๆ 2.71 แสนล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายตัวของตลาดยานยนต์ในประเทศและกระแสตอบรับของยุโรปและอเมริกา ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทที่จะได้กำไรสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
[adsforwp id=”1302″]
Hyundai Motor ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 โดยบริษัทมีผลกำไรมาโดยตลอดจะมากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่สภาวะเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น แต่ดูเหมือนว่าปี 2022 จะเป็นปีทองของผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีใต้เป็นพิเศษ เพราะเพียงไตรมาสแรกของปี Hyundai Motor สามารถสร้างกำไรให้กับองค์กรเป็นเงินกว่า 1.92 ล้านล้านวอน (ราวๆ ห้าหมื่นสองพันล้านบาท) และขยายเป็น 2.98 ล้านล้านวอน (แปดหมื่นล้านบาท) ในไตรมาสที่สองของปี และดูทีท่าจะไม่ลดลงในไตรมาสที่สาม และคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นอีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 อีกด้วย
จากบทวิเคราะห์ของ Hana Song Sung-jae นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของ Korea Times ได้เปิดเผยว่า Hyundai Motor ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดภายในประเทศเท่านั้น แต่ในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือ ก็มีผลกำไรที่เป็นบวกมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 โดยในตลาดยุโรป มีกำไรเพิ่มขึ้น 2.9% ในไตรมาสที่สองของปี 2022 ส่วนตลาดอเมริกาเหนือมีผลกำไรเพิ่มขึ้น 6.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ SUV ที่สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้สูงเกินกว่าครึ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Hyundai Motor
[adsforwp id=”1302″]
Hana Song Sung-jae ได้บรรยายในบทความของตนเองว่า “Hyundai Motor มีความต้องการต่อผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก เฉพาะตลาดในประเทศเกาหลีใต้ ต้องมีรถแสตนบายพร้อมจำหน่าย 640,000 คัน ในตลาดยุโรป 140,000 คัน และคาดว่าตลาดเกิดใหม่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว คาดว่าส่วนแบ่งการตลาดจะขยายผ่านการขยายการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป”
ในทิศทางเดียวกัน Kia ผู้ผลิตจากประเทศเดียวกับ Hyndai เองก็มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 56.1% จากปีที่แล้ว เป็นจำนวนเงินกว่า 7.9 ล้านล้านวอน หรือราวๆ สองแสนหนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาท ซึ่งมากกว่าการคาดเดาในช่วงต้นปี ที่ทีมวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Kia จะมีผลกำไรในไตรมาสที่สาม 6.7 ล้านล้านวอน หรือราวๆ หนึ่งแสนแปดหมื่นหนึ่งพันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 20% จากการคาดเดา ซึ่งหมายความว่ากำไรจากการดำเนินงานรวมกันของผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองรายอาจแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18 ล้านล้านวอน หรือประมาณ สีแสนแปดหมื่นแปดพันล้านบาท
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]