Kia India ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นอัพเกรดใหม่ Kia Sonet 2024 รุ่น Facelift ด้วยรูปลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุงและการอัพเกรดเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเดิม
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับ Kia Sonet นั้น ถือเป็นรถSUV ขนาดเล็ก ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่กลมมน โดยเปิดตัวครั้งแรกในประเทศอินเดียเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา และในปี 2024 นี้ ตัวรถก็ถูกปรับโฉมใหม่ด้วยไฟหน้า LED รูปทรงบูมเมอแรงสไตล์ Mahindra ที่ยื่นออกไปบนกันชนและขนาบข้างกระจังหน้า tiger-nose ที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัท ชิ้นส่วนตกแต่งสีดำเชื่อมต่อชุดไฟเข้ากับช่องไอดีตรงกลาง เหนือแผ่นกันกระแทกขนาดใหญ่พร้อมพื้นผิววัสดุที่ทำออกมาเลียนแบบอลูมิเนียม
[adsforwp id=”1302″]
โปรไฟล์ส่วนใหญ่ยังคงใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้าโดยมีตัวเลือกสีใหม่และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วที่เป็นส่วนหนึ่งของการอัพเกรด ด้านท้ายได้รับชุดไฟท้าย LED แบบเต็มความกว้างชุดใหม่ที่ดูคล้ายกับรุ่นอื่นๆในไลน์ผลิตภัณฑ์ของ Kia การตกแต่งสไตล์อะลูมิเนียมเพิ่มเติมบนกันชนที่ออกแบบใหม่ สิ่งที่น่าสนใจคือสไตล์ของ Kia Sonet ในตลาดอินเดียนั้นแตกต่างจากรุ่นสเปคจีนอย่างเห็นได้ชัด
ในส่วนของห้องโดยสารเอง ยังคงรักษาแนวทางที่เรียบง่ายของตัวรถรุ่นก่อนได้เป็นอย่างดี หน้าจอแสดงผลส่วนคนขับ ยังคงเหมือนเดิมด้วยหน้าจอคู่ขนาด 10.25 นิ้ว รวมกับระบบควบคุมสภาพอากาศที่ได้รับการปรับปรุงและตัวเลือกใหม่สำหรับเบาะ อุปกรณ์ดังกล่าวอาจรวมถึงการเชื่อมต่อ Android Auto/Apple CarPlay แบบไร้สาย, การชาร์จแบบไร้สาย, เบาะนั่งระบายอากาศ, ระบบเครื่องเสียง Bose, ซันรูฟ, เครื่องฟอกอากาศ, ถุงลมนิรภัย 6 ใบ และสิ่งที่น่าสนใจคือระบบ ADAS ที่อัพเกรดใหม่
ระบบส่งกำลังของตัวรถนั้น ไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิม โดยยังคงใช้งานเครื่องยนต์ MPi 1.2 ลิตรที่ให้กำลัง 82 แรงม้า (hp) ตัวเลือกเครื่องยนต์ T-GDi ขนาด 1.0 ลิตรที่ให้กำลัง 118 แรงม้า (hp) และตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร CRDi ให้กำลัง 114 แรงม้า (hp) ทุกรุ่นเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยมีระบบเกียร์ให้เลือกใช้งานทั้งแบบ MT, sAT และ AT
Kia ไม่ได้ประกาศราคาสำหรับ Sonet รุ่นปรับโฉมในอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยทางผู้ผลิตจะเปิดให้ทำการสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2023 โดยการส่งมอบตัวรถล็อตแรกจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมกราคม 2024 โดยจะใช้โรงงานในเมือง Anantapur ของประเทศอินเดีย เป็นฐานการผลิตหลัก
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]