เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Nissan ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น กับการเปิดตัว 2023 All-New Nissan X-Trail ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ดวยการนำเสนอขุมกำลัง e:POWER เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ผ่านการปรับปรุงใหม่ พร้อมกับการนำเสนอระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE ที่พัฒนาโดยทีมวิศวกรของบริษัท
[adsforwp id=”1302″]
Nissan ได้เปิดตัว All-New X-Trail รุ่นที่ 4 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนัดหมายล่วงหน้าก่อนการเปิดตัวประมาณ 5 วัน โดยการเปิดตัวครั้งนี้ทางผู้ผลิตไม่ได้กล่าวถึงกลไกที่เปลี่ยนแปลงของระบบ e:POWER เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของตัวรถ แต่กล่าวง่ายๆ เพียงว่า “กำลัง ความราบลื่น และเสียงการทำงานที่เงียบ” จะเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ของขุมกำลังรุ่นที่ 2 นี้
2023 All-New Nissan X-Trail ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMF-C ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกันที่ใช้งานบน Mitsubishi Outlander โดยจะมีการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 ลูกสูบ 1.5 ลิตร VC Tourbo ซึ่งจะเป็นเครื่องปั่นกระแสไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอ-ออน โดยไม่มีการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อ แต่จะมีการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ที่จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน e-4FORCE ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท
[adsforwp id=”1302″]
รูปแบบภายนอกตัวรถนั้น All-New X-Trail ใหม่ดูไม่ได้แตกต่างไปจาก Nissan Rouge ที่ปัจจุบันทำตลาดในอเมริกาเหนือ ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 ตัวรถจะใช้ภาษาการออกแบบที่รวมเอาการออกแบบไฟหน้าแบบแยกส่วน กระจังหน้า V-motion ผสมโครเมียม แผ่นกันลื่นสไตล์อลูมิเนียม นอกจากนี้ยังมีแผ่นปิด X-Trail X ที่ดูแข็งแกร่งขึ้นพร้อมแผ่นกันลื่นและขอบล้อที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงรุ่นปรับแต่งโดย Autech ส่วนการนำเสนอในประเทศญี่ปุ่นนั้น X-Trail ใหม่จะมีตัวเลือกสีตัวถังที่มากถึง 12 สีด้วยกัน
ภายในห้องโดยสาร ตัวรถจะมีตัวเลือกที่นั่งทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง โดยมีแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วพร้อมโหมดการแสดงผลสองโหมด หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วสำหรับระบบ Infotainment System โดยมีตัวเลือกพิเศษจอแสดงผลบนกระจกหน้าขนาด 10.8 นิ้ว ระบบเครื่องเสียง Bose Premium Sound System ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับ X-Trail เต้าเสียบไฟขนาด 100V ช่องเสียบ AC กำลัง 1,500 Watt และตัวเลือกการปรับแต่งมากมายสำหรับที่นั่ง ทั้งวัสดุผ้า, หนัง, Nappa, Tailor Fit และวัสดุ Cell-Cloth
ในส่วนความปลอดภัยนั้น จะมาพร้อมกับแพ็กเกจ Nissan Safety Assist ที่จะมีกล้องมองภาพ 360 องศา เซนเซอร์เรดาร์และโซนาร์ คอยตรวจจับความผิดปกติแวดล้อม รวมไปถึงระบบการทำงาน ADAS จำนวนมาก และมีจุดเด่นที่ฟังก์ชั่น ProPILOTของทาง Nissan เสริมให้ตัวรถเป็นอีกหนึ่งยานยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงสุด
2023 All-New Nissan X-Trail จะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ผ่านตัวแทนจำหน่ายและโชว์รูมทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยมีการวางราคาเริ่มต้นที่ 3,198,800 เยน หรือประมาณ 850,000 บาท ไปจนถึง 4,499,000 เยน หรือประมาณ 1.19 ล้านบาทในรุ่นท๊อป โดยจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจของ Toyota RAV4, Subaru Forester, Honda CR-V รวมไปถึงเพื่อนร่วมแพลตฟอร์มอย่าง Mitsubishi Outlander
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]