เมื่อเร็วๆ นี้ หน่วยงานกำกับดูแลของจีน ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลของ Lingxi แบรนด์ใหม่ของผู้ผลิต Dongfeng-Honda ที่กำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท โดยใช้ชื่อ Lingxi L ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ของรถซีดานพลังงานไฟฟ้า ที่มีพิสัย 520 กิโลเมตรต่อชาร์จ
โดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนชี้ว่า Lingxi จะเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ภายใต้บริษัทร่วมทุน Dongfeng-Honda ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายนปี 2023 โดยจะมี Lingxi L เป็นผลิตภัณฑ์นำร่องของบริษัท และคาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2024 นี้ กลุ่มตลาดจะเน้นไปที่บุคคลที่มีรายได้ในระดับกลางค่อนสูง ซึ่งสอดคล้องกับการที่ Dongfeng-Honda ได้ประกาศว่าภายในปี 2025 สัดส่วนของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงถึงมากกว่า 50% และจะยุติการผลิตรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลภายในปี 2070
โดยรวมแล้ว Lingxi L ใช้การออกแบบที่เน้นสีแบบทูโทนโดยมีส่วนหน้าแบบปิดและมีแถบไฟ LED แนวตั้งบนฝาครอบด้านหน้าที่เชื่อมต่อกับโลโก้ของแบรนด์และแถบไฟแนวนอน ทำให้เป็นที่จดจำได้อย่างรวดเร็ว ด้านหลังมีหางเป็ด องค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่นอื่นๆ ได้แก่ มือจับประตูแบบซ่อนและกระจกมองข้างแบบดิจิทัล
ตามข้อมูลที่เปิดเผยโดย MIIT ของจีนได้รายงานว่า Lingxi L มีขนาด 4830/1845/1503 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2731 มิลลิเมตร รถใช้ขอบล้อห้าก้านขนาด 19 นิ้ว และยางขนาด 245/40 R19 ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ลิเธียม LFP ขนาด 59.22 kWh รองรับระยะทาง 520 กิโลเมตรต่อชาร์จ (มาตรฐาน CLTC) กำลังจะมาจากมอเตอร์เดี่ยวแบบวางหน้า โดยใช้มอเตอร์ขนาด 160 แรงม้า (kW) และมีอัตราเร่งสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภายในห้องโดยสารจะพบกันพวงมาลัยทรงกลมแบบดั้งเดิม และหน้าจอแบบ 5 หน้าจอ ที่จะแบ่งออกเป็นหน้าจอสำหรับแสดงผลส่วนคนขับ 1 ส่วน หน้าจอส่วนกลาง 1 จอ หน้าจอสำหรับผู้โดยสารเบาะหน้า และหน้าจอสำหรับกระจกมองหลังดิจิทัลอีก 2 จอ นอกจากนี้ยังมีระบบแสดงผลแบบ HUD ที่ให้ข้อมูล เช่น ความเร็วของยานพาหนะ การนำทาง และสัญญาณจราจร การกำหนดค่าอื่นๆ ที่จำเป็น ตัวรถจะมาพร้อมกับระบบด้วยการจดจำใบหน้า ระบบไฟส่องสว่างโดยรอบ การตรวจสอบแรงดันลมยาง ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ และระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้
อย่างไรก็ตาม ตัวรถ Lingxi L คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และผู้เชี่ยวชาญมองว่า ตัวรถจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 200,000-230,000 หยวน หรือราวๆ 1.03-1.18 ล้านบาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com