Mazda CX-80 นับว่าครอสโอเวอร์ 3 แถวที่มีตำแหน่งเหนือกว่า CX-60ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Mazda จะถูกนำเสนอในยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย โดยหนึ่งในนั้นจะมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
[adsforwp id=”1302″]
ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมานั้น Mazda กำลังเปลี่ยนแปลงสถานะของตัวเองให้เข้าใกล้การเป็นผู้ผลิตในระดับพรีเมี่ยมมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นแนวโน้มที่ดี โดยยอดขายที่แข็งแกร่งของรุ่น CX-60 และ CX-90 ช่วยหนุนอัตรากำไรของผู้ผลิตรถยนต์ หลังจากความสำเร็จเหล่านี้ บริษัทเองพร้อมที่จะเปิดตัวรถครอสโอเวอร์แบบ 3 แถวในชื่อ CX-80 โดยมีเป้าหมายไปที่ตลาดหลายแห่งนอกอเมริกาเหนือ รวมถึงยุโรปและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
[adsforwp id=”1302″]
CX-80 จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BMW X3 โดยที่ตัวรถนั้น จะเข้ามานับบทบาทแทนที่ CX-8 โดยจะมีโมเดลที่ใหญ่กว่าอย่าง CX-90 น่าเสียดายที่ความล่าช้าหมายความว่ารถครอสโอเวอร์สมรรถนะสูงถูกเลื่อนออกไปในต้นปีหน้า เช่นเดียวกับ CX-70 ที่จะมีขนาดที่เล็กกว่า ด้วยการวางตำแหน่งให้เป็นครอสโอเวอร์แบบ 5 ที่นั่ง
ตัวรถจะใช้ภาษาการออกแบบ ‘Kodo’ ของ Mazda ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์ได้พัฒนาภาษาการออกแบบที่แสดงออกถึงความรู้สึกนี้ เพื่อรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์ของบริษัท ขณะเดียวกันก็เน้นสัดส่วนที่ทรงพลังและอิทธิพลของแสงกับแผ่นโลหะ รูปลักษณ์ของ CX-80 ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ มันจะมีความใกล้เคียงกับ CX-60 แต่จะมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่า โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือประตูด้านหลังที่ยาวขึ้น กันชนหลังด้านล่างที่ออกแบบใหม่ และเสา D ที่กว้างขึ้น
สถาปัตยกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ใหม่ของ Mazda ถือเป็นการประกาศศักราชใหม่สำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น โดยเน้นความหรูหราภายในในราคาที่เอื้อมถึง CX-80 จะมีการออกแบบห้องโดยสารเหมือนกับ CX-60 และ CX-90 ซึ่งก็ไม่แย่นัก แต่เราต้องการเห็นความแตกต่างระหว่างรุ่นต่างๆให้มากขึ้น
ข่าวดีก็คือว่าผู้โดยสารเบาะหลังจะได้พื้นที่วางขาเพิ่มขึ้นสำหรับแถวที่ 2 และ 3 แม้ว่าจะแตกต่างจาก CX-90 ซึ่งสามารถจุได้ 8 ที่นั่ง ความสะดวกสบายในห้องโดยสารประกอบด้วยแผงหน้าปัดดิจิตอล หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 12.3 นิ้วพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย จอมอนิเตอร์มุมมองรอบทิศทาง 360 องศา จอแสดงผลบนกระจกหน้า ระบบไฟส่องสว่างโดยรอบ และระบบปรับแต่งผู้ขับขี่ส่วนบุคคลที่ใช้การจดจำใบหน้า
CX-80 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถขนาดใหญ่ที่เน้นการขับเคลื่อนล้อหลังของ Mazda โดยจะมีลักษณะการควบคุมแบบไดนามิกเช่นเดียวกับรุ่นพี่อื่นๆ รวมถึงระบบบังคับเลี้ยว Kinematic Posture Control ซึ่งใช้เบรกอย่างนุ่มนวลไปยังด้านใน ลดอาการม้วนตัวของล้อหลัง CX-80 จะมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่าเมื่อเทียบกับ CX-60 ซึ่งมีขนาด 2870 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม CX-80 คาดว่าจะมีระยะฐานล้อที่ต่ำกว่า 3,119 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระยะฐานล้อของ CX-90 รุ่นปัจจุบัน
ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น CX-80 จะเสนอตัวเลือก ICE ที่หลากหลายพร้อมรูปแบบการใช้พลังงานไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ตัวเลือกประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรุ่น Mild Hybrid e-Skyactiv D 3.3 ลิตร 6 สูบ 251 แรงม้า (hp) และปลั๊กอินไฮบริด 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 323 แรงม้า (hp) และแรงบิด 500 นิวตันเมตร โดยทุกๆ รุ่นคาดว่าจะมาพร้อมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของ Mazda พร้อมส่งกำลังไปที่ล้อหลังหรือทั้งสี่ล้อ
Mazda CX-80 จะเป็นคู่แข่งใหม่ที่น่ากลัวของ BMW X3 รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันในตลาดยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Peugeot 5008, Hyundai Santa Fe, Nissan X-Trail, Kia Sorento, Skoda Kodiaq และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนการเปิดตัวนั้น เนื่องจากการผลิต CX-8 จะสิ้นสุดลงภายในสิ้นปีนี้ การเปิดเผยอย่างเป็นทางการของ CX-80 จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะจำหน่ายในยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงตลาดอื่นๆในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น ประเทศไทยเองก็มีโอกาสที่จะได้รับตัวรถมาทำการตลาดด้วย แต่ถ้าพิจารณาจากตลาดรถครอบครัวขนาดใหญ่แล้ว ตัวรถอาจจะถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถหรูสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ซึ่งมีตลาดที่ค่อนข้างเล็กหากเทียบกับภาพรวมของตลาดยานยนต์ในประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]