Mazda MX-5 รถยนต์สปอร์ตโรดสเตอร์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ความสวยงามของการออกแบบ ตัวรถที่มีขนาดกระทัดรัด แต่ประสิทธิภาพของตัวรถเองก็ตอบโจทย์การใช้งานเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลยที่โมเดลนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนสำคัญของ Mazda ในสายสปอร์ต
[adsforwp id=”1302″]
1989 Mazda MX-5
Mazda MX-5 ถูกผลิตขึ้นมาครั้งแรกเมื่อปี 1989 และมีการผลิตต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึง 4 รุ่น โดยครั้งล่าสุดที่มีการเปลี่ยนแปลงก็คือโมเดล ND ในปี 2014 หากเรานับจำนวนทั้งหมดของ MX-5 ตั้งแต่เจนฯ แรกมาจนถึงปัจจุบัน ตัวรถมีการผลิตและจำหน่ายไปแล้วทั่วโลกกว่า 1,200,000 คันเลยทีเดียว
2014 Mazda MX-5
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Mazda MX-5 เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ก็เพราะตัวรถมีตัวเลือกรูปแบบตัวถัง 2 รูปแบบในทุกๆ รุ่น ทั้งแบบ Cabrio ที่เป็นหลังคาแบบ soft-top สามารถพับเก็บหลังคาและปรับให้เป็นตัวรถสปอร์ตเปิดประทุนได้ และแบบ RF ที่เป็นหลังคาแบบเต็มหรือแบบแข็ง ที่ทำให้ตัวรถสามารถใช้งานและปรับแต่งให้เข้ากับสายสปอร์ตเต็มตัวได้
[adsforwp id=”1302″]
และด้วยความนิยมนี้ ทำให้ Sugar Chow ดิจิตอลอาร์ทิสต์ ได้หยิบเอา MX-5 มาทำการตีความใหม่ ด้วยการเปลี่ยนตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ ให้กลายเป็นรถแฮชแบ็กสามประตู ด้วยการใช้เทคนิค Computer Graphic พร้อมกับมอบชื่อตัวรถที่น่าสนใจไว้ว่า “Mazda MX-5 Shooting Brake”
Sugar Chow ได้นิยาม MX-5 ใหม่ไว้ได้น่าสนใจมาก เราจะสังเกตได้ว่า การเรนเดอร์นี้ค่อนข้างที่จะสมจริงมาก เราจำได้ว่ายังคงไว้ซึ่งส่วนรองรับและแผงตัวถังส่วนใหญ่ของรถเปิดประทุน แต่ครึ่งบนและส่วนท้ายได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เสา A ถูกรวมเข้ากับหลังคาแบบแข็งซึ่งมีความลาดเอียงไปทางด้านหลังเล็กน้อย สิ่งนี้เปลี่ยนสัดส่วนของรถสปอร์ตอย่างมากโดยให้ความสำคัญกับเพลาหลังมากขึ้น บังโคลนหลังเชื่อมต่อกับเสา C ซึ่งเป็นไปตามรูปร่างของขอบหน้าต่างที่แก้ไขแล้ว
เนื่องจาก MX-5 มีขนาดกระทัดรัด จึงไม่น่าเป็นไปได้สูงที่ทุกคนจะใส่เบาะหลังได้ ดังนั้นเราจึงเดาว่าเจ้า “Shooting Brake” จะยังคงรูปแบบของรถสองที่นั่งดั่งเดิม ของตัวรถไว้ และไม่มีการเสริมที่นั่งแถวสองแต่อย่างใด ที่สำคัญกว่านั้น ท้ายรถมีหน้าต่างบานเล็กซึ่งช่วยให้เข้าถึงส่วนท้ายที่ขยายใหญ่ขึ้นได้ MX-5 ปกติจะมีพื้นที่ท้ายรถที่สามารถบรรจุสิ่งของได้ประมาณ 120 ลิตร ซึ่งน่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับส่วนท้ายที่มีการขยายตัวของ “Shooting Brake” Sugar Chow ยังเพิ่มสปอยเลอร์หลังขนาดเล็ก ไฟท้าย LEDและท่อไอเสียสี่ส่วนบนดิฟฟิวเซอร์สต็อกจากโรงงาน ซึ่งทำให้ตัวรถดูสปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิม
สุดท้ายต้องย้ำอีกครั้งว่านี้เป็นเพียงจินตนาการของ Sugar Chow เท่านั้น และมันมีอยู่จริงเพียงในโลกดิจิตอล ซึ่งทาง Mazda เองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาหรือว่าจะเอาแนวคิดนี้มาผลิตจริงแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าภาพเรนเดอร์นี้จะสมจริงและน่าจะเอามาทำการพัฒนาต่อมากขนาดไหนก็ตาม
Credit : www.carscoops.com Sugar Design
[adsforwp id=”1302″]