หลังจากเปิดตัวในตลาดรถยนต์ประเทศญี่ปุ่นไม่นานนัก 2023 New Toyota Sienta เองก็สร้างยอดการสั่งจองล่วงหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาเกิน 30,000 คันในเวลาเพียงไม่กี่วัน ทำให้โมเดล MPV ขนาดเล็กรุ่นใหม่กำลังจะเป็นโมเดลยอดนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และมีแนวโน้มที่ยอดการสั่งจองล่วงหน้าจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงปลายปีนี้
[adsforwp id=”1302″]
สิ่งที่ดึงดูดใจผู้บริโภคสำหรับ 2023 New Toyota Sienta ใหม่นั้น จะเป็นงานออกแบบใหม่ที่พลิกโฉมรถยนต์ MPV ไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จากรูปลักษณ์ดั่งเดิมของปี 2020 ที่จะเน้นรูปแบบที่สปอร์ต โดยใช้กลิ่นอายของ GR Toyota มาผสมผสานเข้ากับแนวทางการใช้งานอเนกประสงค์ของตัวรถ แต่ในทางกลับกันตัวรถรุ่นใหม่จะมีงานออกแบบที่เน้นไปในทางรถยนต์สำหรับครอบครัวและใส่องค์ประกอบที่เน้นสำหรับการใช้งานที่สะดวกสบายสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ
งานออกแบบตัวรถรุ่นใหม่นั้นเข้าถึงได้ง่าย ด้วยความน่ารักและสดใส การออกแบบไฟหน้าที่ดูสมส่วน รวมเข้ากับไฟ DRL แบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้า ที่ลงตัว ทำให้ดูสนุกสนานมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า และเข้ากันได้ดีกับตัวถังรถที่ดูมีความโค้งมนมากกว่าเดิม จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ลูกค้า 6 ใน 10 คน จะเป็นผู้หญิง และเมื่อเสริมเข้ากับโฆษณาทางสื่อต่างๆ ที่ใช้ธีมของการเดินทางพร้อมกับสุนัขคู่ใจ ก็เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ของรถยนต์ที่น่ารักน่าเอ็นดูแต่มีการใช้งานที่อเนกประสงค์มากกว่า
https://www.youtube.com/watch?v=v9L1IGajgAw&t=40s
[adsforwp id=”1302″]
ความสดใหม่ของงานออกแบบยังขยายไปต่อที่ด้านข้าง และด้านหลัง โดยจะมีจุดเด่นที่ชุดไฟท้ายแบบ LED ที่มีลูกเล่นในการวางตำแหน่งชุดไฟที่กระจายในโคม สร้างรูปแบบของไฟแจ้งเตือนที่แปลกใหม่ แต่สามารถสังเกตได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับตัวเลือกขอบล้อ ที่มีทั้งขอบล้ออลูมิเนียมและล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว ที่มีลวดลายที่แตกต่างกัน
ไม่เพียงแต่การออกแบบที่เน้นความสวยงามเท่านั้น ยังมีงานออกแบบที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน อย่างเช่นในเกรด Z Hybrid ที่เป็นตัวท๊อปของรุ่นนั้น จะมาพร้อมกับบันไดขึ้นตัวรถ ที่อำนวยความสะดวกให้กับเด็กและผู้สูงอายุ ทำให้เข้าถึงและออกจากตัวรถได้ง่ายขึ้น อีกทั้งประตูเลื่อนด้านข้าง และประตูท้าย ยังเป็นประตูไฟฟ้าที่มีเสียงเตือนการทำงาน พร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษที่สามารถปิดเสียงการทำงานได้
สำหรับภายในห้องโดยสาร จะมีการใช้วัสดุหุ้มด้วยผ้าใยสังเคราะห์ชนิดพิเศษ บนเบาะนั่งและพื้นผิวสัมผัสอื่นๆในห้องโดยสาร โดยจะใช้สีโทนเทา ที่ทำให้ตัวห้องโดยสารมีมิติและให้อารมณ์ที่สว่างกว่าการเลือกใช้เบาะสีดำ เราจะพบกับพวงมาลัย Multi-Function ใหม่ รูปแบบเดียวกับที่พบบน Toyota Noah และ Voxy ที่มีส่วนควบคุมต่างๆมากมาย พร้อมกับหน้าจอแสดงผลส่วนสาระบันเทิงส่วนกลางขนาด 10.5 นิ้ว และช่องเสียบชาร์จอุปกรณ์พกพาแบบ USB ที่ให้มามากถึง 3 ช่อง ทั้งที่นั่งแถวหน้า และแถวที่สอง
น่าเสียดายที่ตัวรถยังไม่ได้ใส่อุปกรณ์ตามสมัยนิยมอย่างเช่น ระบบ Push Start โดยการสตาร์ทเครื่องยนต์ยังคงต้องใช้กุญแจเสียบที่เบ้าและบิดเพื่อสตาร์ท รวมไปถึงหน้าจอส่วนคนขับที่ถึงแม้จะเป็นหน้าจอสีแบบ TFT ที่มีขนาดเพียง 7 นิ้ว ที่อาจจะดูเล็กเกินไป แต่เมื่อลองเปรียบเทียบกับราคาแล้ว ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจไม่น้อย กับราคาแนะนำสำหรับรุ่น Hybrid ที่คิดเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ 817,533 บาทเท่านั้น ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตัวรถถึงได้มีคนให้ความสนใจมากถึงขนาดนี้
Credit : creative311.com
[adsforwp id=”1302″]