เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราได้นำเสนอข่าวการเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Toyota ในตลาดรถยนต์ประเทศรัสเซียไป ซึ่งมีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมเข้ามา เกี่ยวกับรายละเอียดที่น่าจะเกิดขึ้นบน 2023 All-New Toyota Sequoia ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อมๆ กันครับ
[adsforwp id=”1302″]
อย่างที่เราเคยนำเสนอไป Toyota Sequoia เปิดตัวครั้งแรกในประเทศรัสเซียเมื่อปี 2000 และมีการพัฒนาในรุ่นที่สอง เมื่อปี 2007 และใช้งานยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวนั้นจัดว่าเป็นรถในเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของรุ่น ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นที่ 3 นั้นจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Toyota Tundra เป็นพื้นฐาน แต่ก็มีข่าวว่าทาง Toyota เองก็มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนอุปกรณ์ต่างๆให้มีความแตกต่างออกไป
โดยเจ้า Toyota Sequoia รุ่นที่ 3 นั้นจะมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก V8 ขนาด 5.7 ลิร เป็นเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.4 ลิตร โดยจะมีการบวกกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าชดเชย ทำให้เครื่องยนต์ใหม่นั้นจะผนวกรวมเข้ากับแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ ทำให้มันแข็งแกร่งกว่าเดิม มีน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงความสามารถในการลากจูงที่มากขึ้น โดยกำลังสูงสุดที่ทำได้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 443 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 790 นิวตันเมตร ซึ่งจะเป็นรองเพียง Lexus LX6 เท่านั้น (จากผู้ผลิต Toyota) ซึ่งเอสยูวีสุดหรูจะมีกำลังที่มากกว่า 28 แรงม้า (HP)
ในแง่ของการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น คาดว่าทาง ผู้ผลิตจะรักษาอัตราส่วน 19 mpg หรือประมาณ 30.5 กิโลเมตร ต่อน้ำมัน 3.7 ลิตร ไม่นับรวมการใช้งานมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า ซึ่งคาดกันว่าระยะที่รวมทั้งพลังงานจากแบตเตอรี่และน้ำมันเชื้อเพลิง 1 แกลลอน (3.5 ลิตร) จะทำให้ตัว Sequoia ทำระยะได้ประมาณ 30-35 ไมล์เลยทีเดียว (48-56 กิโลเมตร)
[adsforwp id=”1302″]
แน่นอนว่าการแชร์แพลตฟอร์มมาจาก Tundra รุ่นใหม่นั้น Sequoia จะไม่ใช่รุ่นเดียวที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้ โดยจะมีทั้ง Land Cruiser และ Lexus LX ที่ทั้ง 4 โมเดลจะใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน โดยทั้ง 4 โมเลดกลับไปใช้เพลาหลังแบบ live rear axle และจากข้อมูลที่เราได้มานั้น ตัวแพลตฟอร์มสามารถปรับระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบอิสระได้ แต่ดูเหมือนว่าวิศวกรของบริษัทจะเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น เพราะหลักน่าจะมีปัจัยมาจากค่าชิ้นส่วน และความซับซ้อนในสายการประกอบ แต่ทั้งนี้ ทางวิศวกรของ Toyorta เองก็ออกมาบอกว่าระบบเพลาหลังแบบใหม่นั้น ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล และตอนนี้สามารถรวมระบบกันสะเทือนแบบอัดอากาศ ที่สามารถควบคุมความสูงของส่วนท้ายตัวรถไว้ได้สำหรับผู้ที่ลากของที่มีน้ำหนักมากๆ รวมไปถึงความสามารถในการลากจูงที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เคยผลิตมา
บรรดาสื่อต่างประเทศคาดกันว่า Sequoia รุ่นที่สามจะมีรุ่นออฟโรด ที่จะวางจำหน่ายในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกับ Tundra TRD Pro โดยจะมีการปรับจากระบบช่วงล่างของ Bilstein มาเป็นโช้คอัพแบบ internal by-Pass ของ Fox พร้อมด้วยคุณสมบัติสำหรับการใช้งานเชิงออฟโรดอย่าง โหมดการขับขี่แบบภูมิประเทศ โหมด Crawl Control ของ Toyota ซึ่งรักษาความเร็วในการขึ้นหรือลงทางลาด ให้สม่ำเสมอ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งบน Tubdra TRD Pro ก็จะถูกยกมาใช้ด้วยเช่นกัน
สุดท้าย Toyota จะเริ่มสายการผลิต Sequoia ที่โรงงานเดียวกันในการผลิต Tundra ใน San Antonio มลรัฐ Texas โดยจะมีแผนการทำตลาดในทั้ง อเมริกา รัสเซีย และยุโรปตะวันออก โดยมีคู่แข่งอย่าง Chevy Tahoe และ GMC Yukon ในตลาดอเมริกา รวมไปถึง Nissan Armada และ Jeep Wagoneer ในตลาดระดับสากล
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]