สำหรับ Ford PRO นั้นเป็นเหมือนกับแบรนด์ย่อยของผู้ผลิต Ford โดยจะเน้นไปที่การผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์เป็นหลัก โดยจะมีผลิตภัณฑ์ประเภทรถตู้สำหรับอุตสาหกรรม ฟู๊ดทรัค หรือการขนส่งขนาดเล็ก โดยล่าสุดทางบริษัทได้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะเปลี่ยนมาใช้งานพลังงานไฟฟ้า 100% กับเจ้า 2023 E-Transit Custom
[adsforwp id=”1302″]
เมื่อเปรียบเทียบกับ Ford PRO Transit Custom ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปนั้น E-Transit Custom จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นที่ด้านหน้า ด้วยกระจังหน้าเป็นประกายที่ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้านขวาของกันชนมีพอร์ตชาร์จ ส่วนด้านซ้ายของกระจังหน้าจะมีสัญลักษณ์ “E” ที่บ่งบอกถึงการใช้พลังงานไฟฟ้า
ข้อมูลใหม่ที่เราได้มานั้น บริษัทได้เปิดเผยว่าตัวรถจะมีความสามารถในการวิ่งทำระยะสูงสุด 236 ไมล์ หรือราวๆ 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง โดยใช้มาตรฐาน WLTP และรองรับกำลังไฟสูงสุดบนสถานี Fast charge ด้วยแรงดัน 115 kW โดยรายละเอียดของมอเตอร์ แบตเตอรี่ทางผู้ผลิตได้ให้สัญญาว่าจะเปิดเผยในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นจังหวะที่เปิดให้จองตัวรถล่วงหน้าก่อนการผลิตจริง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ Ford ใช้กับ F150-Lightning ที่สร้างยอดจองทะลุ 200,000 คันในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน
[adsforwp id=”1302″]
มีกระแสข่าวลือว่า E-Transit Custom จะใช้แนวทางเดียวกับ E-Transit ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยจะมีตัวเลือกมอเตอร์ 2 รูปแบบ โดยจะมีกำลังสูงสุด 181 และ 255 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 431 นิวตันเมตร และคุณสมบัติในการวิ่งทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาที่ต่ำกว่า 7 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุด 137 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมกับรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้มากถึง 830 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่า E-Transit Custom จะมาพร้อมกับระบบ infotainment system รุ่นใหม่อย่าง SYNC4 พร้อมหน้าจอขนาด 12 นิ้ว โดยจะใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ที่แยกส่วนออกมาจากแบตเตอรี่ที่บรรจุไฟฟ้าสำหรับการขับเคลื่อน แต่สามารถประจุไฟกลับเข้าสู่ระบบได้ด้วยการชาร์จเช่นเดียวกับพลังงานขับเคลื่อน โดยจะรองรับกำลังชาร์จสูงสุด 2.3 kW
อย่างที่เกริ่นไป 2023 Ford Pro E-Transit Custom จะยังไม่มีการผลิตใดๆ จนกระทั่งถึงปี 2023 โดยจะเริ่มเปิดให้ทำการสั่งจองล่วงหน้าในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และจะใช้โรงงาน Ford Otosan ในเมือง Kocaeli ประเทศตุรกีเป็นฐานการผลิต ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นฐานผลิตเดียวกับ Volkswagen Transporter รุ่นต่อไปที่จะหันมาใช้พลังงาน BEV เต็มรูปแบบด้วยเหมือนกัน
Credit : www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]