หลังจากเปิดตัวในตลาดยุโรปมาได้สักพัก และเริ่มเข้ามาวางจำหน่ายด้วยราคาที่โคตรแพงในตลาดประเทศไทย ล่าสุด Volkswagen ID Buzz รถตู้แบบ Microbus พลังงานไฟฟ้า ก็กลังจะเข้าไปทำตลาดอย่างเป็นทางการในอเมริกา และมีการเปลี่ยนแปลงสเปกพื้นฐานบางอย่างให้มีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่ทำตลาดในโซนยุโรป
[adsforwp id=”1302″]
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือการเพิ่มรุ่นฐานล้อยาว ที่มาพร้อมกับเบาะที่นั่งโดยสาร 3 แถว โดยตัวรถจะมีขนาดที่ยาวกว่ารุ่นมาตรฐานไปถึง 10 นิ้ว โดยความยาวพิเศษมาจากการยืดฐานล้อ 9.8 นิ้ว ทำให้ตัวรถมีความยาวรวม 192.4 นิ้วและความกว้าง 77.9 นิ้ว ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่พอๆ กับ Volkswagen Atlas รถยนต์ SUV Full Size ของทางค่าย
[adsforwp id=”1302″]
ไม่เพียงแต่มีการปรับขนาดใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแล้ว ประตูเลื่อนด้านข้างตัวรถ มีการขยายให้กว้างกว่าเดิม 7.6 นิ้ว ช่วยให้เข้าถึงแถวที่สามใหม่ได้ง่ายขึ้น และมีหน้าต่างด้านข้างที่เลื่อนเปิดหรือปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า เสริมเข้ามาอีกด้วย
สำหรับภายในห้องโดยสารนั้น จะมีตัวเลือกเบาะนั่งสำหรับแถวที่สองทั้งแบบ แถวยาว และแบบเก้าอี้กัปตัน โดนแถวที่สามจะเป็นเบาะนั่งแบบพับเก็บได้ แยกส่วน 70/30 เช่นเดียวกับ Buzz สองแถว นอกจากประตูที่กว้างขึ้น รถตู้ที่ใหญ่ขึ้นยังมีช่องระบายอากาศบนเพดาน โดยจะไม่แยกส่วนควบคุมหรือระบบปรับอากาศแบบ 3 โซน แต่จะมีการแยกส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบ 2 โซนเท่านั้น
ในขณะที่ฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้มีพื้นที่สำหรับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น โดยทางผู้ผลิตจะติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 91 kWh โดยจะเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไปยังมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าขนาด 282 แรงม้า (hp) ที่ติดตั้งบนเพลาล้อหลัง และยังมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมกับมอเตอร์คู่ 330 แรงม้า เป็นตัวเลือกเสริม
สำหรับระยะทางนั้น Volkswagen ยังไม่เปิดเผยตัวเลขจากการทดสอบ EPA อย่างเป็นทางการแต่พวกเขาคาดการณ์ว่าระยะทางจะอยู่ที่ประมาณ 260 ไมล์ (418 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จ 1 รอบ และมีความเป็นไปได้ที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีระยะทางที่มากกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในแง่ของอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย จะติดตั้ง ระบบ adaptive cruise control และ collision avoidance with automatic braking พร้อมกับระบบ pedestrian detection เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ รถตู้ยังจะได้รับการปรับปรุงระบบสาระบันเทิงและระบบควบคุมสภาพอากาศของ VW ด้วยแถบเลื่อนอุณหภูมิแบบเรืองแสงและระบบควบคุมสภาพอากาศที่สามารถเข้าถึงได้จากปุ่มแบบจานภาพที่ด้านล่างของหน้าจอส่วนกลาง
ตัวเลือกต่างๆ ได้แก่ หลังคาแบบพาโนรามาที่มีการติดตั้งชุดไฟ Ambuent Light ที่สามารถปรับสีสันได้ 30 สี เครื่องเสียง Harman Kardon ลำโพง 14 ตัว กระจกหน้าหลังแบบปรับความร้อนได้ ระบบช่วยจอดรถ และจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ เมื่อพิจารณาถึงวิธีการที่ Volkswagen บรรจุรถยนต์ในปัจจุบัน เป็นไปได้ว่าอุปกรณ์เสริมทั้งหมดเหล่านี้จะถูกรวมไว้ในระดับการตัดแต่งที่สูงขึ้น แทนที่จะบรรจุเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับตัวรถจากโรงงาน
Volkswagen ยังไม่ยืนยันการกำหนดราคาของสหรัฐฯ แต่เมื่อพิจารณาจากราคาของรุ่นที่ใช้ทำตลาดในยุโรปแล้ว ด้วยสเปกที่เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ราคาจะเริ่มต้นในช่วงกลางถึงสูงที่ 50,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1.73 ล้านบาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]