นับว่าเป็นอีกโมเดลสาย Off-Road ที่กำลังจะเข้ามาเขย่าวงการรถปิ๊คอัพในอเมริกา กับเจ้า 2023 Ford F-150 “Rattler” ที่ถูกผลิตให้เป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับสาย Off-Road แต่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า และมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
[adsforwp id=”1302″]
2023 Ford F-150 “Rattler” จะเป็นการนำเอาโมเดลพื้นฐานของ Ford F-150 XL มาทำการปรับแต่งและเสริมคุณสมบัติในเชิง Off-Road ที่ยกมาจาก FX4 แพ็กเกจ Off-Road ของทางบริษัท ด้วยการเสริมแผ่นกันกระแทก เฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมการลงเขา โช้คอัพสำหรับการใช้งาน Off-Road ระบบขับเคลื่อนแบบ 4WD และขอบล้อขนาด 18 นิ้วพร้อมกับยางแบบ All-Terrain ที่สามารถใช้งานได้ทุกสภาพพื้นผิว
ในขณะที่ขุมกำลังของ Rattler นั้นจะเป็นบล็อกเดียวกับ XL ด้วยเครื่องยนต์ EcoBoost V6 ขนาด 2.7 ลิตร แต่มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของระบบไอเสียใหม่ โดยจะแยกท่อไอเสียเป็นแบบสองทาง ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถแต่ช่วยในการสร้างกำลังและแรงบิดที่เหนือกว่า XL เล็กน้อย
[adsforwp id=”1302″]
ภายนอกตัวรถจะมีการปรับแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยช่องระบายอากาศด้านหน้าที่มีตรา Rattler เช่นเดียวกับด้านข้างที่จะมีลวดลายกราฟฟิกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงูหางกระดิ่งตรงกับชื่อรุ่น ด้วยมีตัวเลือกสีตัวถังที่มากถึง 7 สีประกอบไปด้วย Oxford White, Avalanche, Iconic Silver, Carbonized Gray, Antimatter Blue, Stone Gray, Agate Black และ Rapid Red TriCoat
ภายในห้องโดยสารจะพบกับเบาะนั่งที่ผลิตจากหนัง Onyx ที่มีการตัดเย็บแบบพิเศษเข้าชุดกับคอนโซลหน้า ที่มีการตัดแต่งด้วยกรอบโครงอลูมิเนียม หน้าจอแสดงผลสาระบันเทิงที่มีการรองรับการใช้งาน apple CarPlay และ Andropd Auto อีกทั้งยังมีระบบนำทางดาวเทียมที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตติดตั้งมาให้ในตัวพร้อมใช้งานได้ทันที
ในส่วนของราคานั้น 2023 Ford F-150 “Rattler” จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 32,970 ดอลล่าร์หรือประมาณ 1.19 ล้านบาท โดยจะมีราคาที่แพงกว่า F-150 XL ไปราวๆ 1,450 ดอลล่าร์ (52,407 บาท) แต่จะมีราคาที่ถูกกว่าการนำเอา F-150 XL ไปติดตั้งแพ็กเกจ FX4 อยู่ประมาณหนึ่ง โดยที่ได้รับคุณสมบัติบางอย่างที่เหมือนกัน และบางอย่างที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น 2023 Ford F-150 “Rattler” จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ Off-Road เต็มรูปแบบที่มีราคาจำหน่ายที่ถูกที่สุดรุ่นหนึ่ง และมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเหมาะสมกับการใช้งานเป็นอย่างมาก
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]