ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าสินค้าต่างๆ พากันขยับราคาขึ้น ไม่ต่างจากแวดวงยานยนต์ ที่รถรุ่นเดียวกันจากปีที่แล้ว แต่เมื่อวางจำหน่ายในปีนี้ กลับมีราคาที่เพิ่มขึ้นจากเดิม แต่แนวคิดนี้สวนทางกับ Nissan GT-R รถยนต์ซีดานสปอร์ตจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ล่าสุดพึ่งจะประกาศราคาสำหรับการจำหน่ายในปี 2023 สำหรับตลาดอเมริกา ที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นเหมือนกับผู้ผลิตหรือโมเดลอื่นๆ ของทางค่าย
[adsforwp id=”1302″]
โดย Nissan GT-R รุ่นปี 2023 ที่กำลังจะกล่าวถึงนี้ จะเป็นโมเดลเดียวกับที่ใช้จำหน่ายเมื่อปี 2021 -2022 ที่ผ่านมา โดยตัวรถจะยังคงใช้ขุมกำลัง 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ V6 ชุดเดิม ให้กำลังสูงสุด 565 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 633 นิวตันเมตร ประกบกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ DCT 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อที่เป็นเอกลักษณ์
การจำหน่ายโมเดลมาตรฐาน ในตลาดอเมริกานั้น จะมีราคาแนะนำอยู่ที่ 113,540 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.3 ล้านบาท โดยจะมีค่าปลายทางและค่าธรรมเนียมการจัดการอีก 1,895 ดอลล่าร์ (71,900 บาท) ซึ่งมีราคาที่เท่าเดิมจากรุ่นปี 2022 แบบไม่เพิ่มหรือลดลงแต่อย่างใด
[adsforwp id=”1302″]
ในขณะที่รุ่นประสิทธิภาพสูงอย่าง GT-R Nismo ซึ่งจะเป็นรุ่นปรับปรุงให้มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับ GT3 จะมีการปรับจูน Mapping Engine ใหม่ให้ได้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิด 652 นิวตันเมตร อีกทั้งยังมีการปรับอุปกรณ์มาตรฐานจาก Nismo ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วงล่าง ตัวถังคาร์บอน ชุดเบรกจาก Brembo คาลิปเปอร์เซรามิกคาร์บอน ก็มีราคาจำน่ายที่ไม่แตกต่างจากปี 2022 โดยวางราคาอยู่ที่ 210,740 ดอลล่าร์ หรือาวๆ 7.99 ล้านบาท โดยไม่รวมค่าปลายทางและค่าธรรมเนียม
โดยส่วนหนึ่งแล้ว มูลเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาของตัวรถไม่มีการขยับขึ้นหรือลงนั้น น่าจะเป็นผลมาจาก ตัวรถนั้นมีการพัฒนาล่าสุดมาเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งสายการผลิตของตัวรถเองก็กำลังจะยุติในเร็วๆนี้ ทำให้ตัวรถเองยังคงมีสต็อกที่หลงเหลือ ซึ่งเราคงต้องยกความดีนี้ให้กับ Nissan USA ที่ไม่ฉวดโอกาสช่วงชุลมุนนี้ ในการขยับราคาค่าตัวของ GT-R ขึ้น แต่ยังคงรักษามาตรฐานราคาไว้ได้ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจภาพรวมขององค์กรจะไม่นิ่งมากเท่าที่ควร
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]