หลังจากการประกาศของ CEO รุ่นใหญ่อย่าง Ashniwa Gupta ภายในงาน Shanghai Motor Show 2021 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถึงการเตรียมการนำเสนอเครื่องยนต์ e:POWER ในโมเดลใหม่ 6 โมเดล ภายในปี 2025 ของตลาดประเทศจีนสำหรับ Nissan ล่าสุดได้มีภาพหลุดของว่าที่โมเดลใหม่ที่เป็น 1 ใน 6 โมเดลที่ว่า ซึ่งจะเป็นการย้ำว่าข่าวลือเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมานั้นมีอยู่จริงกับ Nissan Slyphy e:POWER
[adsforwp id=”1302″]
2019 Nissan Slyphy ในตลาดประเทศจีน
มองไปที่ไลน์ของ Nissan Slyphy นั้นจัดอยู่ในหมวดหมู่ของรถยนต์ซีดานระดับ Hi-End ที่จัดว่าเป็นระดับเดียวกับคู่แข่งอย่าง Toyota Altis หรือ Hond Civic โดยโมเดลล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวในตลาดประเทศจีนเมื่อปี 2019 นับว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่สามของโมเดล ที่พกพาเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ที่เน้นประสิทธิภาพการใช้งานควบคู่ไปกับการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดกว่ารุ่นก่อนหน้า ซึ่งมันก็ทำยอดขายเป็นอันดับต้นให้กับทางค่ายแทบจะในทันทีเมื่อเปิดตัว
ต่อเนื่องจากความสำเร็จของเครื่องยนต์ e:POWER ที่ใช้บน Nissan Note และ Kick ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตนั้น ก็มีข่าวคราวมากมายถึงการส่งผ่านขุมกำลังใหม่นี้ไปยังโมเดลอื่นๆ ของทางค่าย และเมื่อย้อนไปในช่วงเริ่มต้นนั้น Nissan Slyphy เองก็เคยตกเป็นเป้าหมายต่อไปของขุมกำลัง e:POWER ด้วยเช่นกัน
ล่าสุดมีการเปิดเผยภาพหลุดของ Nissan Slyphy e:POWER ที่เปิดเผยโดยสื่อยานยนต์จากประเทศจีน โดยมีการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนในเรื่องของขุมกำลังนั้น จะยกมาจาก Nissan Note และ Kick แบบทั้งชุด โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร เป็นกำลังหลักในการปั่นกระแสไฟไปเก็บที่แบตเตอรี่ก่อนจะแปลงกำลังไฟนั้นไปเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีกำลังสูงสุด 136 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ไม่แตกต่างจาก Note และ Kick ที่จำหน่ายในปัจจุบัน
[adsforwp id=”1302″]
ส่วนที่แตกต่างกันก็คืองานออกแบบและแนวทางของตัวรถ ที่จะยังคงรูปแบบของซีดานสี่ประตูแบบดั่งเดิม โดยมีการเสริมหลักการออกแบบใหม่ของทางค่ายอย่างกระจังหน้า V-Motion ขนาดใหญ่ พร้อมช่องรับอากาศสำหรับการช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ งานออกแบบใหม่นี้ยังรวมไปถึงชุดกันชนหน้า ที่ให้ความสปอร์ตกว่ารุ่นเดิม ไฟตัดหมอกวางในส่วนล่างในแนวนอน แต่มีการตัดให้เหลือเพียงแถวเดียว ไม่วางซ้อนเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า และการออกแบบด้านข้างใหม่ที่มีการวางบานประตูที่มีขอบหน้าตาสูง ทำให้ตัวรถนั้นดูเพรียวกว่าเดิม แต่สิ่งที่ตามมาก็คือการโดยสารในส่วนหลังนั้นจะรู้สึกอึดอัดเหมือนกับที่เคยเจอใน Nissan Juke รุ่นแรกหรือไม่
มาถึงส่วนท้ายที่สร้างความน่าสนใจให้กับพวกเราเป็นอย่างมาก ด้วยหลักการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ลงตัว การวางตำแหน่งไฟท้ายใหม่รูปทรงเรียวเล็ก เมื่อผสมกับระบบไอเสียขนาดเล็กที่เกิดจากเครื่องยนต์ นับว่าเป็นงานออกแบบที่สะดุดตาและลงตัวเป็นอย่างมาก โดยส่วนท้ายมีการประดับตรารุ่นที่เป็นทั้งภาษาอังกฤษและจีน บวกกับตรา e:POWER และตัวเลข 300 ที่น่าจะหมายถึงแรงบิดสูงสุดของตัวรถที่ทำได้
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เราพอจะหาได้สำหรับ Nissan Slyphy e:POWER รุ่นใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยบรรดาสื่อยานยนต์จากประเทศจีนได้คาดเดาว่าทางผู้ผลิตจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปี 2021 นี้ และจะเตรียมการผลิตจริงในเวลาต่อมา โดยจะพร้อมสำหรับการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศภายในเดือนมีนาคมปี 2022 ซึ่งน่าจะใช้ฐานการผลิตภายในประเทศจีนเป็นหลัก ส่วนการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ นั้น คาดว่าจะยังคงใช้ไทยเป็นฐานหลักเหมือนเดิม แต่การเปิดตัวในระดับสากลนั้น คาดว่าจะเกิดหลังจากเปิดจำหน่ายในประเทศจีน ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงราวๆ เดือนสิงหาคมปี 2022 และประเทศที่น่าจะได้รับการเปิดตัวต่อจากประเทศจีนก็คงไม่พ้นญี่ปุ่น และประเทศไทยที่เป็นฐานการผลิตหลักนั่นเอง
Credit : creative311.com
[adsforwp id=”1302″]