BYD ผู้ผลิตมาแรงแห่งปีจากประเทศจีน ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับตลาดรถยนต์แดนมังกร ด้วยการส่ง Song Plus Champion Edition 2024 ที่มีตัวเลือกระบบส่งกำลังสองรูปแบบ คือ EV และ PHEV
[adsforwp id=”1302″]
ตามหลักแล้ว BYD Song Plus Champion Edition เป็นไมเนอร์เชนจ์ของ BYD Song Plus โมเดล SUV ที่รู้จักกันดีซึ่งเป็นหนึ่งใน SUV ที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน โดยทั้งสองรูปแบบนั้นใช้การออกแบบที่อิงมาจาก Ocean X ที่โดดเด่นด้วยไฟหน้าที่ดูใกล้เคียงกับ BYD Seal สำหรับส่วนหน้านั้น Song Plus EV มีกระจังหน้าแบบปิด ในขณะที่รุ่น PHEV มีแบบไร้กรอบ นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมกับกันชนหน้าและชุดไฟท้ายเดี่ยวแบบสปอร์ตเสริมภาพรวมของตัวรถให้ดูปราดเปรียวยิ่งกว่าเดิม
[adsforwp id=”1302″]
ในแง่ของขนาดตัวรถนั้น ทั้งสองรุ่นมีขนาดที่ใกล้เคียงกันมาก โดย เวอร์ชันไฟฟ้า จะมีขนาด 4785/1890/1660 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น PHEV จะมีขนาด 4775/1890/1670 มิลลิเมตร ซึ่งทั้งสองโมเดลมีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2765 มิลลิเมตร
Song Plus “EV” Champion Edition
ระบบส่งกำลัง บน Song Plus EV Champion Edition จะมีแบ่งย่อยออกไปอีก ตามขนาดและกำลังของมอเตอร์ โดยรุ่นเริ่มต้นนั้นจะมาพร้อมกับมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า204 แรงม้า (hp) 310 นิวตันเมตร ในขณะที่รุ่นประสิทธิภาพสูงจะมาพร้อมกับ e-motor 218 แรงม้า (hp) โดยทั้งสองรุ่นจะมีตัวเลือกขนาดแบตเตอรี่ 2 ขนาด ประกอบด้วย 71kWh และ 87 kWh โดยจะสามารถวิ่งทำระยะได้ 520 และ 605 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งรอบ
Song Plus “PHEV” Champion Edition
ในส่วนของขุมกำลังของ Song Plus PHEV Champion Edition จะมาพร้อมกับระบบส่งกำลัง DM-i 1.5 ลิตรกำลัง 110 แรงม้า (hp) และมอเตอร์ไฟฟ้า 197 แรงม้า (hp) มีตัวเลือกแบตเตอรี่ 2 ขนาด สำหรับระยะทาง 110 และ 150 กิโลเมตร จากการทดสอบมาตรฐาน CLTC
ภายใน BYD Song Plus Champion Edition จะมาพร้อมกับหน้าจอส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ 90 องศา คือสามารถปรับได้ทั้งแบบแนวนอนและแนวตั้ง นอกจากนี้ยังติดตั้งแผงหน้าคนขับขนาดใหญ่ที่ให้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น มาลัยแบบสามก้าน สำหรับคันเกียร์นั้นเป็นคันเกียร์แบบยืดหดได้ ที่ใช้งานบน BYD Seal และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่บนตัวรถคือระบบการเชื่อมต่อ DiLink และระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone
ในส่วนของราคาจำหน่ายนั้น Song Plus Champion Edition 2024 รุ่นไฟฟ้าล้วน จะมีให้เลือก 3 ระดับ โดยมีราคาจำหน่าย169,800 – 189,800 หยวน หรือประมาณ 823,000 บาท ถึง 919,795 บาท ในขณะที่ตัวท๊อปของรุ่นที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่รองรับระยะทาง 605 กิโลเมตร จะมีราคาจำหน่าย 209,800 หยวน หรือราวๆ 1.016 ล้านบาท
ส่วนรุ่น PHEV จะมีการแบ่งย่อยออกเป็น 2 รุ่น ตามขนาดแบตเตอรี่ที่รองรับระยะทางที่แตกต่างกัน โดยรุ่นเริ่มต้น จะรองรับระยะทาง 110 กิโลเมตร จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 159,800 หยวน หรือประมาณ 774,544 บาท และรุ่น 150 กิโลเมตร จะมีราคาเริ่มต้นที่ 179,800 หยวน หรือราวๆ 871,935 บาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
[adsforwp id=”1302″]