เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Audi Q8 E-Tron 2023 โมเดลที่ถูกตั้งเป้าหมายให้เป็นโมเดล Flagship ในหมวดหมู่ของรถยนต์พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEV) จากทางผู้ผลิตสัญชาติเยอรมัน โดยการนำเสนอในครั้งนี้จะเป็นการปรับรูปแบบของ E-Tron ขึ้นมาใหม่ และพร้อมกับตัวเลือกของรูปแบบตัวรถที่แตกต่างกัน
[adsforwp id=”1302″]
ก่อนหน้านี้ Audi เคยนำเสนอ E-Tron มาแล้ว แต่ในครั้งนี้จะเป็นการปรับชื่อใหม่เพื่อป้องกันความสับสนของลูกค้า โดยชื่อใหม่นั้นจะห้อยมาพร้อมกับรหัส Q8 E-Tron ที่ชี้ให้เห็นว่าตัวรถจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า SUV ของทางค่าย อีกทั้งในการเปิดตัวครั้งนี้ Q8 E-Tron จะมีให้เลือกใช้งาน 2 รูปแบบ คือรุ่นมาตรฐานและรุ่น Sportback
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกนั้น Audi Q8 E-Tron รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับการปรับปรุงในส่วนของกระจังหน้าใหม่ โดยจะมาในรูปแบบของกระจังหน้ารวงผึ้งแบบปิด สปอยเลอร์หน้าใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม อีกทั้งยังมีการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ที่มีผลโดยตรงต่อหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งทำให้ Q8 E-Tron มีค่าสัมประสิทธิ์การลากที่ต่ำถึง 0.27 ลดลงจากรุ่นก่อนหน้า
ภายในห้องโดยสารทั้งสองรุ่นจะมีหน้าตาที่เหมือนกัน โดยภายในจะพบกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงหลายจอ ในส่วนคนขับจะได้รับหน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาดใหญ่ หน้าจอสาระบันเทิงส่วนกลางแนวตั้งขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอส่วนควบคุมระบบ HVAC ขนาด 8.6 นิ้ว หน้าจอแสดงผลแบบ Head-Uo Display จะเป็นตัวเลือกเสริม หลังคากระจกแบบพาโนราม่าพร้อมม่านบังแดดแบบทึบแสง ช่องปรับอากาศแบบ Dual Zone แยกส่วนการทำงาน โดยผู้ซื้อสามารถอัพเกรดระบบปรับอากาศให้เป็นแบบควบคุมแยกส่วน สำหรับ 4 ที่นั่งก็สามารถทำได้ ตัวเบาะนั่งและวัสดุหุ้มและพรมปูพื้นจะผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิล โดยผู้ซื้อในยุโรปและอเมริกา จะได้รับใบรับรอง net-carbon-neutral เพื่อการันตีความรักษ์โลก
[adsforwp id=”1302″]
ไม่เพียงแต่มีตัวเลือกรูปแบบภายนอก 2 แบบ แต่ Audi Q8 E-Tron จะมีตัวเลือกความจุแบตเตอรี่ 2 ขนาด ประกอบด้วย Q8 50 E-Tron ที่พกพาแบตเตอรี่ขนาด 89 kWh มอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า 2 ชุดวางตามตำแหน่งของเพลา ให้กำลัง 335 แรงม้า (HP) 664 นิวตันเมตร ในรุ่นมาตรฐานจะวิ่งทำระยะได้ 491 กิโลเมตร ส่วนรุ่น Sportback จะวิ่งได้ไกลถึง 505 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว ในด้านความสามารถ Q8 50 E-Tron จะสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 6 วินาที
ตัวเลือกแบตเตอรี่อีกรุ่นคือ Q8 55 E-Tron ที่จะมาพร้อมกับกำลังสูงสุด 402 แรงม้า (HP) 664.3 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 104 kWh รุ่นมาตรฐานจะวิ่งได้ไกล 582 กิโลเมตร และรุ่น Sportback จะวิ่งทำระยะได้ 600 กิโลเมตร ในแง่ของประสิทธิภาพนั้น ตัวรถจะสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 5.6 วินาที
ไม่เพียงเท่านั้น ทางผู้ผลิตยังนำเสนอรุ่นประสิทธิภาพสูง SQ8 E-Tron ที่จะเพิ่มมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า ที่เพลาล้อหลังอีก 1 ตัว รวมทั้งสิ้นจะมีมอเตอร์ขับ 3 ชุด ซึ่งจะให้กำลัง 4996 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่มากถึง 973 นิวตันเมตร มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 104 kWh ที่ส่งผลให้รุ่น Boxy ที่เป็นรุ่นมาตรฐานนั้นวิ่งทำระยะได้ 494 กิโลเมตร ส่วนรุ่น Sportback จะวิ่งได้ 513 กิโลเมตร ในแง่ของประสิทธิภาพนั้น ตัวรถจะสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 4.5 วินาที
ในส่วนของการชาร์จไฟนั้น รุ่น 50 จะรองรับกำลังไฟสูงสุด 150 kW บนสถานีชาร์จแบบ DC ส่วนรุ่น 55 และ SQ8 จะรองรับกำลังไฟสูงสุด 170 lW และมีฟังก์ชั่นในการชาร์จด่วน ทำให้ตัวรถสามารถวิ่งได้ไกลถึง 420 กิโลเมตร ด้วยระยะเวลาในการชาร์จไฟเพียง 31 นาทีเท่านั้น สำหรับผู้ใช้งานสถานีชาร์จแบบ AC จะรองรับกำลังไฟสูงสุด 11 kW และสามารถอัพเกรดให้รองรับกำลังไฟ 22 kW ได้
สำหรับ Audi Q8 E-Tron ทั้งรุ่น 50, 55 และ SQ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 74,400 ยูโร หรือประมาณ 2.75 ล้านบาท โดยจะเริ่มจำหน่ายในประเทศเยอรมันก่อนเป็นที่แรกของโลก โดยจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ก่อนจะขยายไปยังประเทศต่างๆในยุโรป อเมริกา และทั่วโลก ก่อนไตรมาสที่สองของปีจะสิ้นสุด
Credit : www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]