จัดว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ขยันออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง สำหรับ BYD โดยล่าสุดได้เปิดตัวรถยนต์ PHEV รุ่นใหม่ Song Pro DM-i Champion Edition ปี 2023 อย่างเป็นทางการในตลาดประเทศจีน ด้วยการชูคุณสมบัติพิเศษที่ตัวรถสามารถวิ่งด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ได้ไกลสูงสุด 110 กิโลเมตร
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับ BYD Song นั้นจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของรถยนต์ SUV ซึ่งในไลน์อัพของ Song นั้นจะมีระบบส่งกำลังที่หลากหลายครอบคลุมทั้ง EV PHEV และไฮบริด ในขณะที่ Song Pro DM-i นั้นจะจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของรถ PHEV โดยที่รุ่นใหม่ของปี 2023 จะพ่วงเวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า Champion Edition
[adsforwp id=”1302″]
BYD Song Pro DM-i Champion Edition เป็นไปตามแนวทางของผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของบริษัท โดยก่อนหน้านี้ ได้นำเสนอ Han EV, Han DM-i, Seal, Tang ในรูปแบบของ Champion Edition มาแล้ว ซึ่งเจ้า Champion Edition นี้ไม่ใช่รุ่นแยกแต่อย่างใด แต่เป็นเหมือนรุ่นไมเนอร์เชนจ์แบบเบาๆ ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ในการออกแบบภายนอก โดยจะมีกระจังหน้าใหม่ด้วยรูปแบบเมทริกซ์และกันชนหน้าที่ดุดันยิ่งขึ้นพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่
ภายในของ Song Pro DM-i ปี 2023 ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงพบกับหน้าจอแบบลอยที่สามารถหมุนแนวตั้ง/แนวนอนได้ ตรงกลางมีคันเกียร์แบบยืดหดได้ ขณะที่พวงมาลัยเป็นแบบสามก้านโดยมีก้นแบนสำหรับ Song Pro DM-I รุ่นระดับเริ่มต้นนั้นติดตั้งซันรูฟแบบพาโนรามา, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า, ระบบควบคุมสภาพอากาศแยกอิสระ 2 โซน, ระบบ DiLink 4.0, กุญแจ NFCเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบส่งกำลังของ Song Pro DM-i ปี 2023 จะมาพร้อมกับ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 110 แรงม้า (hp) และมอเตอร์ไฟฟ้าที่เสริมกำลังอีก 197 แรงม้า (hp) การเปรียบเทียบ รุ่นปี 2022 จะมีการติดตั้งมอเตอร์กำลัง 180 แรงม้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่ารุ่นใหม่จะมีกำลังที่มากกว่า ในขณะที่แบตเตอรี่ LFP จะมีให้เลือกใช้สองขนาด ประกอบด้วย 12.9 kWh ที่สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ 71 กิโลเมตร และขนาด 18.3 kWh ที่เพิ่มระยะวิ่งให้ตัวรถสามารถแล่นไปไกลสูงสุด 110 กิโลเมตร จากการทดสอบ NEDC โดยชุดแบตเตอรี่ใหม่นี้จะมีการปรับขนาดจากรุ่นก่อนหน้าที่ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 8.3 kWh รองรับการวิ่ง 51 กิโลเมตร ซึ่งบอกได้เลยว่า พัฒนาไปไกลกว่าเดิมมากทีเดียว
ส่วนสุดท้ายคือเรื่องราคาจำหน่ายในประเทศจีน BYD Song Pro DM-i Champion Edition มีราคาเริ่มต้นที่ 135,800 หยวน หรือราวๆ 657,106 บาท ซึ่งลดลงกว่ารุ่นปี 2022 ถึง 5,00 หยวน (24,569 บาท) ในส่วนของรุ่นท๊อปสุดที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จะมีราคาจำหน่ายที่ 159,800 หยวน หรือประมาณ 785,656 บาท ถูกกว่ารุ่นปี 2022 ถึง 6,000 หยวน (29,498 บาท) ซึ่งถือว่าคุ้มมาก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของตัวรถที่ดีขึ้นในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
[adsforwp id=”1302″]