Tesla Model 3 นับว่าเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในทุกๆ ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยล่าสุดทางบริษัทได้มีการนำเสนอโมเดลใหม่ที่มีการปรับปรุงทั้งภายนอกและภายในใหม่ ทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นระหว่างโมเดลใหม่และของที่มีจำหน่ายก่อนหน้านี้
[adsforwp id=”1302″]
หลังจากเปิดตัวในตลาดรถยนต์โลกเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา Tesla ได้มอบชีวิตใหม่ให้กับ Model 3 ด้วยการปรับปรุงด้านความสวยงาม ระยะการเดินทางที่มากขึ้น และการอัพเกรดฟีเจอร์ต่างๆ หลังจากวาทกรรมสาธารณะที่คลั่งไคล้เกี่ยวกับภาพ Spyshot และการคาดเดาจำนวนมาก Model 3 ใหม่อาจเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุดแห่งปีก็ว่าได้
[adsforwp id=”1302″]
Model 3 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งมีชื่อรหัสภายในว่า Project Highland ได้รับการปรับปรุงเป็นอย่างมาก ด้วยด้านหน้าและด้านหลังที่ออกแบบใหม่ และได้รับการตกแต่งภายในใหม่ โดยทางผู้ผลิตกล่าวว่าได้ปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มระยะทางที่มากขึ้นและเพื่อลดแรงต้านและเสียงลม สำหรับตอนนี้การอัพเดทมีเฉพาะในเวอร์ชันขับเคลื่อนล้อหลังและระยะไกล (LR) ของโซนยุโรปเท่านั้น
การออกแบบที่เพรียวบางยิ่งขึ้น ส่วนหน้ามีความโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมด้วยเส้นสายที่สะอาดตา กรอบไฟหน้าที่ออกแบบใหม่ และไฟ DRL แบบ LED ที่จะกลายเป็นจุดเด่นใหม่บนตัวรถ ทำให้จดจำได้ง่ายขึ้น รอยพับที่ขอบฝากระโปรงหน้าซึ่งปรากฎในรุ่นก่อนหน้าจะถูกปรับให้เรียวลงใต้ไฟหน้าตอนนี้คมชัดขึ้นมากและขยายไปจนถึงบังโคลน ในขณะที่ส่วนท้ายมีไฟท้ายรูปตัว C ที่โดดเด่น มีการประดับตรา Tesla อยู่ระหว่างไฟ ล้อแบบหลายก้านยังได้รับการออกแบบใหม่อีกด้วย ตัวถังมาพร้อมกับ 2 สีใหม่ ประกอบด้วย Ultra Red และ Stealth Grey
ขนาดของตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย โดยขนาดความยาว 4,270 มิลลิเมตร ความสูง 1,441 มิลลิเมตร ระยะ Ground clearance 140 มิลลิเมตร ซึ่งจะยาวขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย และสูงมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับรุ่น RWD จะมาพร้อมกับการอัพเดทล้อใหม่เป็นขนาด 19 นิ้ว และแบตเตอรี่ที่เพิ่มความจุมากขึ้น น่าเสียดายที่ผู้ผลิตเองไม่ได้เปิดเผยว่าความจุของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นขนาดไหน แต่เปิดเผยว่าระยะทางที่ตัวรถรองรับได้จากมาตรฐาน WLTP จะอยู่ที่ 554 กิโลเมตร ต่อชาร์จ ขณะที่รุ่น LR จะเพิ่มระยะเป็น 678 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 11 ถึง 12 เปอร์เซ็นต์
การตกแต่งภายในของ Model 3 ดูเหมือนห้องนั่งเล่นมากขึ้น มีการออกแบบที่โอบล้อมด้วยองค์ประกอบที่ทางผู้ผลิตนิยามว่า “enveloping architecture” ซึ่งประกอบด้วยอะลูมิเนียมและวัสดุผ้า ไฟส่องสว่างโดยรอบแบบใหม่ครอบคลุมทั่วทั้งห้องโดยสาร ผู้ผลิตกล่าวว่าห้องโดยสารเงียบขึ้นด้วยกระจกกันเสียงและวัสดุกันเสียงที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด
ในส่วนของอุปกรณ์ห้องโดยสารนั้น จะพบกับหน้าจอกลางขนาด 15.4 นิ้วมีขนาดเท่ากันของรุ่นก่อนหน้า แต่จะมีขอบจอที่บางลงเพื่อให้พื้นที่หน้าจอใช้งานได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผลด้านหลังขนาด 8.0 นิ้วใหม่พร้อมระบบควบคุมสภาพอากาศ การระบายอากาศ และระบบสาระบันเทิงในตัว Tesla ได้เปลี่ยนคันเกียร์ที่ยึดกับเสาด้วยตัวควบคุมที่พวงมาลัยซึ่งจะเป็นรูปแบบเดียวกับ Model S และ Model X
รุ่น LR จะมีการอัพเกรดระบบเสียงใหม่ โดยจะได้รับชุดเครื่องเสียงพรีเมี่ยม 17 ลำโพง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 3 ตัว พร้อมด้วยซับวูฟเฟอร์ 2 ตัวและแอมพลิฟายเออร์ 2 ตัว RWD จะได้รับลำโพง 9 ตัว ซับวูฟเฟอร์ 1 ตัวและแอมพลิฟายเออร์อีก 1 ตัว Tesla ยังอ้างว่ามีไมโครโฟนที่ปรับปรุงเพื่อให้ความสามารถในการโทรเพื่อให้ได้บทสนทนาที่คมชัดกว่าเดิม
Tesla จะให้พื้นที่ในโรงงาน Gigafactory Shanghai เป็นฐานการผลิตโมเดลอัพเดทนี้ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดบริษัทเปิดเผยว่า พร้อมจะส่งมอบรุ่นอัพเดทในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ คาดว่า Tesla จะประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับโมเดลอัพเดทและการวางจำหน่ายในระดับสากลในเร็วๆ นี้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]