เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับรถยนต์ Off-Road SUV รุ่นใหญ่จากค่าย Toyota กับเจ้า 2022 Toyota Land Cruiser รุ่นใหม่ ที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยะสำคัญ และทางเราก็ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของโมเดลไว้ในบทความนี้เป็นที่เรียบร้อย
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับ 2022 Toyota Land Cruiser รุ่นใหม่นั้นใช้แพลตฟอร์ม GA-F ซึ่งเป็นรุ่นย่อยของโครงสร้าง TNGA โดยยังคงรูปแบบตัวถังแบบ Body-On-Frame แต่ตัวเฟรมของโมเดลใหม่นั้นถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการลดน้ำหนักตัวโดยรวมของตัวรถ ซึ่งจะเบากว่าเดิมประมาณ 200 กิโลกรัม ซึ่งจะส่งผลให้ตัวรถโดยรวมแบบ 5 ที่นั่งจะมีน้ำหนักตัวที่ 2.61 ตัน และแบบ 7 ที่นั่ง น้ำหนัก 2.66 ตัน และทางผู้ผลิตยังกล่าวอ้างว่าตัวรถจะมาพร้อมกับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ตัวรถมีโอกาสพลิกคว่ำบนความเร็วสูงหรือการหักเลี้ยวแบบกระทันหัน ซึ่งการกระจายน้ำหนักโดยรวมของตัวรถจะเทมาที่ส่วนหน้า 53% และ ส่วนหลังอีก 47% ซึ่งจะเทียบเท่ากับ Land Cruiser 200 ที่มีวางจำหน่ายในบางประเทศ ณ ตอนนี้
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น ลืมเครื่องยนต์แบบ V8 เบนซินเดิมๆไปได้เลย เพราะโมเดลใหม่มาพร้อมกับขุมกำลัง V6 3.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จแบบคู่รุ่นใหม่ ที่สามารถให้กำลังสูงสุด 409 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 473 ib-Ft ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเครื่องยนต์ที่ติดตั้งบน Land Cruiser 300 28 แรงม้า (Hp) และแรงบิดที่มากขึ้น 78 ib-ft เช่นเดียวกับฝั่งเครื่องยนต์ดีเซล ที่ก็มีรุ่นใหม่มาแทนที่ด้วยเช่นกัน โดยใช้ขุมกำลังขนาด 3.3 ลิตรเทอร์โบคู่แบบ V6 ที่ให้กำลังสูงสุด 304 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 516 ib-FT โดยทั้งสองเครื่องยนต์จะจับคู่กับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบ All-Time 4WD พร้อมกับระบบ two-speed transfer case และในบางตลาดจะมีการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดเป็นตัวเลือกพิเศษอีกด้วย
[adsforwp id=”1302″]
ระบบช่วงล่างของตัวรถนั้นถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยส่วนหน้าจะได้รับระบบกันสะเทือนแบบอิสระ และด้านหลังแบบ live-axle โดยระบบทั้งหมดถูกพัฒนาใหม่โดยทีม Kinetic ของทางบริษัท ระบบ KDSS ถูกพัฒนาใหม่ให้กลายเป็นระบบ e-KDSS ที่มีการติดตั้งสมองกลหรือ ECU เพิ่มเข้ามาในส่วนของการประมวลผลของการปรับตัวระบบแรงดันไฮดรอลิกเพื่อปรับเปลี่ยนความต้านทานของเหล็กกันโคลงหรือปิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้งแบบ On-Road และ Off-Road ที่สูงขึ้น โดยระบบ E-KDSS จะแทนที่ปั๊มและสายไฮดรอลิกที่ติดตั้งตรงกลางด้วยปั๊มคู่หนึ่งสำหรับแต่ละเพลา ซึ่งอาจช่วยให้ระบบควบคุมเพลาแยกจากกันเพื่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวรถและล้อที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับสาย Off-Road ตัวรถได้เพิ่มตัวช่วยอย่าง Multi-Terrain Monitor และ Multi-Terrain Select เดิมคือระบบกล้องที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสิ่งกีดขวางที่อาจบังด้วยฝากระโปรงหน้าหรือส่วนอื่นๆ ของรถ ส่วนหลังจะเปลี่ยนโหมดการขับขี่โดยอัตโนมัติตามภูมิประเทศ แทนที่จะกำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องดำเนินการด้วยตนเอง เพื่อให้การขับขี่นั้นเหมาะสมและสะดวกสบายมากขึ้น โดยระบบที่ว่านี้ถูกพัฒนาโดยทีมแข่ง Dakar Rally ของบริษัทที่เชี่ยวชาญในสาย Off-Road อย่างแท้จริง
สำหรับตัวรถรุ่นใหม่นั้นจะมาพร้อมกับมิติตัวรถที่ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยความยาว 4,950 มิลลิเมตร กว้าง 1,978 มิลลิเมตร และสูงรวม 1,880 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร โดยมีความสูงจากพื้นถึงท้องห้องโดยสารที่ 231 มิลลิเมตร ซึ่งเอื้ออำนวยให้กับการขับขี่แบบ Off-Road เป็นอย่างมาก ในขณะที่ตัวรถนั้นมีมิติพร้อมลุยแล้ว องศาของล้อเองก็มีส่วนสำคัญให้ตัวรถสามารถผ่านเส้นทางที่เป็นอุปสรรคไปได้ โดยตัวรถรุ่นใหม่จะมีองศาการหักมุมของล้อหน้า 32 องศาแบบเข้าหา และ 24 องศาแบบผลัก ซึ่งเป็นการวางองศาที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถสายลุยที่พร้อมก้าวผ่านทุกอุปสรรค
ตัวถังของ Land Cruiser ใหม่มีลักษณะเป็นกล่องมากขึ้น มีกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้น แต่มีวิวัฒนาการอย่างเห็นได้ชัดจากรุ่นก่อน โดยทางผู้ผลิตกล่าวว่าคุณลักษณะต่างๆ เช่น ไฟหน้าและไฟท้ายได้รับการติดตั้งให้สูงกว่าปกติอย่างจงใจ เพื่อให้มันมีโอกาสได้รับความเสียหายที่น้อยกว่าในโอกาสที่ต้องใช้งานแบบ Off-Road ส่วนหน้ามีให้เลือก 3 แบบ กระจังหน้าแบบแนวนอน 2 แบบและรูปลักษณ์ที่เป็นมิตรกับท้องถนน ในขณะที่ชุดแต่ง GR Sport สวมกระจังหน้าสีดำและกันชนที่เพิ่มรูปลักษณ์พร้อมสำหรับการขับขี่แบบ Off-Road แบบเต็มขั้น
ในส่วนของห้องโดยสารนั้นถูกปรับใหม่หมดไม่แพ้ภายนอก ในส่วนของคอนโซลหน้าจะมีการเดินเส้นสายที่ทันสมัย ไล่เรียงมาถึงตรงกลางจะพบกับหน้าจอ infotainment displayแบบ Wide Screen ในส่วนหน้าจอคนขับจะได้รับจอแสดงผลขนาดเล็กแยกเกจอะนาล็อกคู่ในแผงหน้าปัด การจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ จะยังเป็นรูปแบบดั่งเดิมที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อเอื้อให้เกิดความสะดวกในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่จาก On-Road เป็น Off-Road
ในรุ่น 7 ที่นั่งนั้น เบาะแถวที่สามจะเป็นเบาะแบบพับได้ โดยจะพับเก็บเรียบไปกับส่วนเก็บสัมภาระ ที่จะเพิ่มพื้นที่สำหรับการบรรทุกที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ที่ใช้เบาะนั่งแบบพับเก็บไว้ริมฝั่งหน้าต่างทั้งสองฝั่ง นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังได้มีการปรับตำแหน่งเบาะนั่งคนขับเพื่อให้ Land Cruiser รุ่นล่าสุดขับง่ายขึ้น และลดความเมื่อยล้าของคนขับอีกด้วย
ในด้านความปลอดภัย Toyota Safety Sense นอกจากยานพาหนะ คนเดินถนน และนักปั่นจักรยานแล้ว ระบบยังจดจำยานพาหนะที่ข้ามทางแยก และสามารถแทรกแซงด้วยการบังคับเลี้ยวและช่วยรักษาช่องทางเดินรถเพื่อหลีกเลี่ยงการชน ระบบจะเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกับยานพาหนะ วัตถุ และคนเดินถนนในระหว่างการเดินรถด้วยความเร็วต่ำถึงกลาง โดยยังคงมีระบบชูโรงอย่าง Adeptive Cruiser Control ที่ทำงานร่วมกับระบบ Radar สำหรับการตรวจจับวัตถุ ยานพาหนะ ที่เข้าใกล้ตัวรถด้วยความเร็วผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนเบื้องต้นพร้อมกับให้คำแนะนำสำหรับการหลบหลีก เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานของระบบ
ในส่วนของการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น 2022 Toyota Land Cruiser จะจำหน่ายในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ ส่วนการเข้าสู่ตลาดประเทศไทยนั้น คงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ โดยส่วนหนึ่งเพราะเราเองไม่มีโมเดล Land Cruiser วางจำหน่ายมาอย่างยาวนานและตลาด Off-Road แบบจริงจังในประเทศไทยเองก็มีขนาดที่เล็ก จึงมีความเป็นไปได้ที่โมเดลใหม่ของ Land Cruiser นี้จะไม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย หากใครต้องการนำมันมาใช้งานก็คงต้องหวังพึ่งพาผู้นำเข้าอิสระเหมือนเดิมและราคาของมันก็คงไม่ต้องบรรยายให้มากความ
วิดีโอ Live สดการเปิดตัว 2022 Toyota Land Cruiser
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]