หลังจากกระแสข่าวลือ GR Crown Crossover กำลังมาแรงจนกลายเป็นประเด็นร้อน ทำให้ทาง Toyota ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ต้องปล่อยทีเด็ด เพื่อชะลอข่าวลือ ด้วยการเปิดเผยภาพตัวอย่างใหม่ของ Crown Sedan ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 นี้
[adsforwp id=”1302″]
เพื่อไม่ให้สับสนกับ Crown Crossover ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นรถซีดานแบบยกสูง Crown Sedan มีส่วนหน้าแบบ “hammerhead” ที่เดินตามรอยของ bZ4X ฝากระโปรงหน้ายาวเปิดทางให้กระจกบังลมที่โค้งมนซึ่งไหลลงสู่หลังคาที่ลาดเอียง นอกจากนี้เรายังสามารถเห็นตัวถังที่เพรียวบางและล้อขนาด 19 หรือ 20 นิ้ว ส่วนท้ายรถค่อนข้างเรียบๆ แต่รุ่นมีแถบไฟเพรียวบางเพื่อเน้นความกว้างของตัวรถ
[adsforwp id=”1302″]
จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยทางผู้ผลิต Crown Sedan จะมีขนาด 5030/1890/1470 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่าโมเดลนี้จะมีความยาวมากกว่า Mirai 56 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่า 81 มิลลิเมตร ซึ่งบ่งชี้ได้ว่า ในห้องโดยสารด้านหลังนั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ารถ FCEV พอสมควร
รูปภาพล่าสุดทำให้เรามองเห็นภายในได้ดีขึ้น และเราจะเห็นห้องโดยสารที่คุ้นเคยซึ่งสะท้อนถึงห้องโดยสารใน Crown Sport และ Crown Crossover อย่างที่กล่าวไปแล้ว Crown Sedan มีคอนโซลกลางที่ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อยพร้อมที่วางแก้วแบบมีฝาปิด ซึ่งถูกตกแต่งด้วยลายไม้เทียม ให้อารมณ์ของรถคลาสสิกได้เป็นอย่างดี เข้ากับสีเบาะนั่งที่เป็นสีโทนอุ่น ตัดกับคอนโซลดำ ช่วยขับให้ภายในห้องโดยสารดูสว่างขึ้นและกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น แน่นอนว่าจะตกเป็นชุดเดียวกับที่ใช้งานบน Crown Crossover และ Crown Sport ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่สื่อญี่ปุ่นอย่าง BestCarWeb ได้แสดงทัศนะไว้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ตัวรถจะถูกตัดทอนกำลังบางส่วนลง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในภาพรวม โดยคาดว่าตัวรถรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในจะมีกำลัง 231 แรงม้า (hp) ในขณะที่รุ่นไฮบริด จะมีกำลังรวมอยู่ที่ 234 แรงม้า (hp)
ในส่วนของการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้น สื่อญี่ปุ่นได้เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ตัวรถ Toyota Crown Sedan จะเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะอยู่ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายนนี้ และแน่นอนว่าจะมีการขยายตลาดสู่ตลาดอเมริกาในลำดับต่อไป ส่วนตลาดในภูมิภาคอื่นๆ นั้นคงต้องรอกันอีกสักหน่อย คาดว่าในช่วงต้นปี 2024 นี้จะมีประกาศอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิต
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]