เรียกได้ว่าเป็นโมเดลแก้ทางการตลาดอย่างชัดเจนสำหรับการเปิดตัว 2021 Ford F-150 Raptor รุ่นใหม่ ที่ท้าชนกับคู่แข่งอย่าง 2021 Ram 1500 TRX ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดอเมริกาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งในบทความนี้เราจะขอพาทุกคนไปดูถึงรายละเอียดแบบเจาะลึกของเจ้า Raptor คันใหม่กันครับ
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับตลาดรถ Pick Up หรือจะให้เรียกได้อย่างเข้าถึงกับบ้านเราคงต้องเรียกว่า “รถกระบะ” ในอเมริกานั้น Ford นับว่าเป็นอีกหนึ่งขาใหญ่ของวงการ แต่ก็ต้องมาสะดุดเมื่อคู่แข่งอย่าง Ram ได้ชิงเปิดตัวเครื่องยนต์ Hellcat รุ่นใหม่ ที่ทำกำลังสูงถึง 707 แรงม้า ซึ่งเป็นเหมือนการส่งสาส์นท้ารบกับเจ้าตลาดโดยสมบูรณ์ ซึ่งทาง Ford เองก็ไม่รอช้าก็เปิดตัวเครื่องยนต์ชุดปรับปรุงใหม่ Carryover V-6 ที่มาพร้อมกับระบบเทอร์โบแบบคู่ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดการปล่อยมลพิษ จับคู่กับระบบเหนี่ยวนำเฉพาะจาก Ford Performance การออกแบบท่อไอเสียใหม่ ที่ช่วยลดเสียงคำรามของเครื่องยนต์ในโหมด Quiet แต่ปล่อยพละกำลังทั้งหมดออกมาได้ในโหมด Sport และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่แบบ Off-Road ด้วยโหมด Baja และให้การขับขี่ที่สมดุลในโหมด Normal ซึ่งมาถึงตอนนี้ทางผู้ผลิตยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขประสิทธิภาพของตัวรถออกมาอย่างเป็นทางการ
เครื่องยนต์ชุดใหม่นี้จะมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด โดยเพิ่มความสามารถในการลากจูงที่เพิ่มขึ้นเป็น 8,200 ปอนด์ (3.7 ตัน) และสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ปอนด์ (635 กิโลกรัม) ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบ one-pedal drive mode เพื่อให้ควบคุมได้มากขึ้นสำหรับรูปแบบการขับขี่แบบ Off-Road ที่มีโหมดแยกย่อยให้เลือกใช้งาน ระบบ Trail Control ซึ่งเป็นมาตรฐานคือรูปแบบของระบบควบคุมความเร็วคงที่ที่ความเร็วต่ำสำหรับทาง Off-Road โดยเฉพาะ
ภายนอกนั้นตัวรถได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากเครื่องบินขับไล่ F22 Raptor ด้วยเหตุนี้ Raptor ซึ่งกว้างกว่า F-150 มาตรฐานอยู่แล้ว 6.0 นิ้วได้ดึงกันชนออกมาเพื่อให้ดูกว้างยิ่งขึ้นพร้อมกระจังหน้าแบบรมดำขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED แบบใหม่ที่พาดผ่านด้านหน้า ไฟ DRL ไฟตัดหมอกดังกล่าวรวมอยู่ในกันชนและไฟท้ายทรงสูง แผ่นกันกระแทกใหม่ด้านล่างกว้างขึ้นพร้อมการออกแบบใหม่ three ribs designed ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในขณะที่ตัวรถนั้นดูสมส่วนและบึกบึนในเวลาเดียวกัน ฝากระโปรงโดมทรงพลังพร้อมตัวระบายความร้อนแบบใหม่และช่องระบายอากาศด้านข้างที่ใช้งานได้ซึ่งออกแบบมาให้มีลักษณะเหมือนการเข้าออกของเครื่องบิน
[adsforwp id=”1302″]
นอกจากนี้ F-150 Raptor ยังมาพร้อมกับโครงสร้างใหม่เพื่อรองรับระบบกันสะเทือนหลังแบบขดลวดแบบ Five-Link และอีกหนึ่งรายการที่ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อรองรับยางอะไหล่ขนาด 37 นิ้วที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ Carl Widmann หัวหน้าวิศวกรฝ่ายการปฏิบัติงานของ Ford กล่าวว่า“ เราน่าจะติดบอร์ดขั้นที่ 2 ไว้เพื่อลงจากรถเมื่อคุณจับพวงมาลัยเพื่อเข้าไปคุณจะสังเกตเห็นได้ทันทีมันทำให้มันมีลักษณะที่แตกต่างออกไปอย่างแน่นอน”
กลับมาที่ระบบกันสะเทือนแบบ Five-Link ที่เป็นชุดช่วงล่างแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาให้มีความสามารถในการทำงานที่สอดคล้องกับระบบเกียร์แบบใหม่ โดย Tony Greco ผู้จัดการโปรแกรมกล่าวว่า “ระบบกันสะเทือนช่วยให้เราไม่เพียง แต่ได้ล้อและยางที่ใหญ่ขึ้นบนรถ แต่ยังได้รับแรงบิดที่พื้นเพราะมันไม่ได้เหวี่ยงเพลาอีกต่อไป”
ทีมงานรู้ดีว่าระบบกันสะเทือนหลังจำเป็นต้องเติบโต แต่ไม่มีอะไรให้จับได้ดังนั้นพวกเขาจึงออกแบบระบบกันสะเทือนหลังแบบ Five Link ขึ้นมา สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถควบคุมได้มากขึ้น และวางกำลังลงสู่พื้นด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น มีความสามารถในการวิ่งบนพื้นที่ขรุขระด้วยความเร็วสูง ตัวระบบกันสะเทือนใหม่นี้มีแขนต่อท้ายที่ยาวเป็นพิเศษเพื่อรักษาตำแหน่งของเพลาในพื้นที่ขรุขระได้ดีขึ้น แกน Panhard สำหรับตำแหน่งด้านข้างและคอยล์สปริง 24 นิ้วซึ่งยาวที่สุดในกลุ่มเดียวกัน ระบบกันสะเทือนแบบใหม่รวมกับซอฟต์แวร์การจัดการเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นทำให้ F-1580 Raptor สามารถเพิ่มแรงบิดไปยังล้อหลังได้มากขึ้นเพื่อการออกตัวที่เร็วขึ้น อัตราเร่งที่เร็วขึ้นและการตอบสนองของคันเร่งที่ดีขึ้น
ส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้ Raptor แตกต่างจาก F-150 รุ่นมาตรฐานมากที่สุดคือพื้นฐานของระบบกันสะเทือน 15.0 นิ้วที่ด้านหลังและ 14.0 นิ้วที่ด้านหน้า โดยทาง Greco กล่าวเสริมไว้ว่า ระบบนี้ช่วยมให้การหมุนของล้อนั้นเพิ่มขึ้น 25% จากรุ่นเดิม
ภายในของห้องโดยสารนั้นเบาะนั่งของ Raptor ทั้งหมดมีโฟมและขอบที่เป็นเอกลักษณ์ เบาะนั่งฐานเป็นผ้าและหนังพร้อมหมอนอิงขนาดใหญ่ทั้งบนและล่าง เบาะนั่งคู่หน้าได้รับการตั้งค่าตามข้อกำหนดของ Ford Performance สำหรับการตอบสนองของท่านั่ง Raptor 37 รุ่นท็อปจะได้รับเบาะนั่ง Recaro ในหนังสีน้ำเงิน Light Speed พร้อมการเย็บ Code Orange ลูกค้าสามารถเลือกใช้แพ็คเกจตัดแต่งอะลูมิเนียมหรือคาร์บอนไฟเบอร์เสริมได้ พวงมาลัย Ford Performance ใหม่มีการควบคุมเพื่อเข้าถึงโหมด ระบบไอเสียและโหมดขับเคลื่อนและแน่นอนว่ามีแป้นเปลี่ยนเกียร์
มาที่คอนโซลกลางเราจะพบหน้าจอสาระบันเทิงขนาด 12.0 นิ้ว รองรับระบบ Sync4 มีคุณสมบัติรองรับ Apple CarPlay ไร้สายและ Android Auto พร้อมการนำทางแบบ Turn-By-Turn ที่ติดตั้งมาให้บนหน้าจอพร้อมใช้งานได้ทันที มีพอร์ตชาร์จแบบ USB 4 พอร์ต กล้องมองภาพ 360 องศา รวมไปถึงความสามารถในการอัพเกรดระบบซอฟแวร์แบบ over-the-air รวมถึงการอัพเดทแผนที่ทางเดินในอนาคต ไม่เพียงเท่านี้ ในรุ่นท๊อปนั้นจะมีการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Pro-Power Onboard 2.0 กิโลวัตต์ แบบเดียวกับที่ติดตั้งในตัวท๊อปของ F-150 รุ่นมาตรฐาน
มาดูกันถึงระบบความปลอดภัยของ F-150 Raptor กันสักหน่อย ตัวรถมาพร้อมระบบ Co-Pilot 360 2.0 ที่พัฒนาใหม่ล่าสุดของบริษัท ซึ่งได้เพิ่มระบบช่วยจอดที่ดีขึ้นและติดตั้ง Active Drive Assist ซึ่งช่วยให้สามารถขับขี่บนทางหลวงแบบแฮนด์ฟรีได้ ซึ่งจะอัพเกรดผ่านรูปแบบ Over-The-Air ในอนาคต
Brian Bell ผู้จัดการฝ่ายการตลาด F-150 กล่าวถึงโมเดลใหม่ไว้ว่า “เราคิดว่า Raptor จะได้รับความนิยมเหมือนเช่นเคย ตัวรถมีฐานลูกค้าจำนวนมากซึ่งจะชื่นชมว่าเราได้รับการยกย่องในด้านสมรรถนะทั้งแบบ On-Road และ Off-Road” ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดตัว Ford F-150 Tremor ในปีนี้ ที่จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับการขับขี่แบบ Off-Road โดยเฉพาะ เพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่าง F-150 และ FX4 รวมไปถึง Raptor ใหม่ ไม่เพียงเท่านั้นในปี 2022 Ford เองก็กำลังเตรียมตัวสำหรับการเปิดโมเดลใหม่ภายใต้รหัส R ที่จะเน้นประสิทธิภาพ ซึ่งจะมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์แบบ V8 5.2 ลิตร บล็อกเดียวกับที่ติดตั้งใน Mustang GT
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]