bestcarweb สื่อยานยนต์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมารายงานเกี่ยวกับกระแสข่าวของ Subaru Forester เจเนอเรชั่นที่ 6 ที่มีกำหนดการเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นฤดูใบไม้ผลินี้
[adsforwp id=”1302″]
โดย Subaru Forester เจเนอเรชั่นที่ 6 นั้นเปิดตัวครั้งแรกที่งาน LA Auto Show 2023 ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยทางผู้พัฒนาได้ประกาศแล้วว่า ตัวรถจะพร้อมสำหรับการจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2024 และล่าสุดทาง bestcarweb สื่อยานยนต์แถวหน้าจากแดนปลาดิบก็ได้ออกมายืนยันว่า ตัวรถจะพร้อมสำหรับการจำหน่ายในประเทศ ในฤดูใบไม้ผลิ หรือระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายนนี้
[adsforwp id=”1302″]
โดยตัวรถ Subaru Forester เจเนอเรชั่นที่ 6 จะเป็นรุ่นใหม่ที่พัฒนาบน Subaru Global Platform ด้วยโครงสร้างเฟรมด้านในแบบเต็ม มีการขยายการใช้กาวเชิงโครงสร้าง และปรับปรุงความแข็งแกร่งของพื้นที่ติดตั้งระบบกันสะเทือน ส่งผลให้มีการปรับปรุงความรู้สึกไดนามิกอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ยังใช้พวงมาลัยแบบใหม่ ที่เรียกว่า 2-pinion electric power steering ให้ความรู้สึกพวงมาลัยเชิงเส้นตรงโดยลดอาการตอบสนองช้าของพวงมาลัยลง ทำให้รับรู้ถึงประสิทธิภาพในการควบคุมที่เพิ่มขึ้น ระบบการควบคุม Active Torque Split AWD ก็ได้รับการอัพเกรดใหม่เช่นกัน ด้วยการกระจายแรงขับอย่างต่อเนื่องอย่างเหมาะสมที่สุดตามภาระของเพลา การตอบสนองที่สูงและประสิทธิภาพในการติดตามแนวเส้นจะเกิดขึ้นในระยะเริ่มแรกของการบังคับเลี้ยว กล่าวกันว่ามีทั้งการขับขี่ที่ปลอดภัยและการควบคุมที่สะดวกสบาย
โมเดลที่ประกาศในงาน LA มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงแนวนอน 2.5 ลิตร มันสร้างกำลังได้ 180 แรงม้า (hp) และแรงบิด 24.6 kgm แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเครื่องยนต์นี้จะถูกนำมาใช้ในเวอร์ชันญี่ปุ่นหรือไม่ และมีแนวโน้มที่ตัวรถจะมาพร้อมกับขุมกำลัง 2.0 ลิตร e-BOXER เวอร์ชันพัฒนาแล้ว ก็มีลุ้นที่จะเป็นหนึ่งตัวเลือกระบบส่งกำลังของตัวรถรุ่นใหม่
ในแง่ของระบบความปลอดภัย EyeSight ได้พัฒนาไปสู่ระบบที่ใช้กล้องเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบ ว่ากันว่าสถานการณ์ที่สามารถจัดการได้ด้วยเบรกก่อนการชนนั้นได้รับการขยายออกไป ทำให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดของ EyeSight ที่พัฒนามากที่สุด มีระบบตอบสนองต่อความผิดปกติของผู้ขับขี่หากผู้ขับขี่ไม่ได้ใช้งานพวงมาลัยเป็นเวลานานในขณะที่ระบบควบคุมช่องทางเดินรถและการควบคุมพวงมาลัยตามรถคันหน้าทำงานอยู่ ระบบจะหยุดรถโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรายงานเกี่ยวกับการตัดเกรดตัวรถ และการตกแต่งพิเศษ รวมไปถึงกรอบของราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่แน่ใจในเรื่องของระบบส่งกำลังที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้งานเครื่องยนต์รูปแบบใด ดังนั้นเราคงต้องรอให้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียก่อน โดยคาดว่าจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ตามรายงานของสื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก bestcarweb.jp
[adsforwp id=”1302″]