ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆ วันนี้ รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีบทบาทมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน ซึ่งมีผู้ผลิตมากมายให้ความสนใจการพัฒนารถยนต์รูปแบบพลังงานสะอาดนี้ เช่นเดียวกับการแข่งขันในหมวดหมู่ Motor Sport พลังงานไฟฟ้าก็เริ่มเป็นที่สนใจในสนามแข่ง ทั้งในรายการ Formula E และ MotoE ที่ยังคงจัดกันอย่างต่อเนื่อง
[adsforwp id=”1302″]
แต่รูปแบบการแข่งขันรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้น เป็นรูปแบบที่จำเพาะเจาะจงลงไป ตัวรถถึงแม้ว่าจะอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน แต่ก็ไม่ใช่สเปกของรถที่เราสามารถหาได้บนท้องถนน Supercharge Electric Crossover series จึงกำเนิดขึ้นมา ด้วยการก่อตั้งของ Max Welti อดีตหัวหน้ามอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่และผู้อำนวยการทีม Sauber Formula 1 และ Rob Armstrong อดีตหัวหน้ามอเตอร์สปอร์ตของบริษัท sports marketing firm IMG
Rob Armstrong ได้กล่าวไว้ว่า “มอเตอร์สปอร์ตอยู่ที่ทางแยก เราเห็นเส้นทางสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าและมีสถานที่สำหรับซีรีส์การแข่งขันที่ใช้เครื่องยนต์ดั่งเดิม เราเห็นช่องว่างที่ชัดเจนสำหรับ Supercharge ในฐานะซีรี่ส์มอเตอร์สปอร์ตที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์บนท้องถนน มันจะแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้านั้นน่าตื่นเต้นและสนุกสนาน”
Max Welti กล่าวเสริมอีกว่า “แบรนด์รถยนต์ต้องการแพลตฟอร์มการตลาดที่แข็งแกร่งเพื่อโปรโมตรถยนต์รุ่นล่าสุดและอนาคตของตนและเพื่อแสดงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV” นอกจากนี้เค้ายังให้สัมภาษณ์ต่อีกถึงความร่วมมือจากผู้ผลิตในการพัฒนาซีรีส์นี้และมั่นใจในการดึงดูดแบรนด์ต่างๆให้เข้ามามีส่วนร่วม แต่เขาปฏิเสธที่จะบอกว่ามีข้อผูกมัดกับผู้ผลิตหรือไม่
[adsforwp id=”1302″]
โดยการแข่งขัน Supercharge Electric Crossover series จะให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ใช้รถแข่ง SC01 พัฒนาโดย Willy Rampf อดีตหัวหน้าฝ่ายเทคนิค Sauber F1 และ Volkswagen Motorsport โดยที่ตัวรถนั้นจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าในแต่ละเพลาที่ให้การขับเคลื่อนไปยังล้อทั้งสี่และผู้จัดงานอ้างว่าตัวรถแข่ง SC01 มีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.5 วินาที โดยแต่ล่ะทีมแข่งจะต้องใช้แพลตฟอร์มของ SC01 เป็นมาตรฐาน แต่สามารถปรับเปลี่ยนตัวถังและโครงสร้างได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับกฎทางเทคนิคสำหรับซีรีส์ Formula E ผู้ผลิตจะมีอิสระในการพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองสำหรับแบตเตอรี่ 40kWh นักแข่งได้รับการออกแบบให้ใช้ระบบชาร์จเร็วสำหรับรถยนต์บนท้องถนนเพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องกับผู้ผลิต
ทั้งนี้ทางผู้จัดการแข่งขันยังไม่ได้ยืนยันสนามที่จะใช้ในการแข่งขันในฤดูกาลแรก แต่มีแผนการสำหรับการใช้สนามในยุโรป 3 สนาม 2 สนาม ในตะวันออกกลาง 1 สนาม ในจีนและเอชีย รวมไปถึง ในสหรัฐฯอีกอย่างน้อย 1 สนาม โดยจะเน้นไปที่สนามที่มีทางยาวต่อหนึ่งรอบราวๆ 1 กิโลเมตร แต่ละแทร็กจะมีสิ่งกีดขวางอย่างน้อยๆ สี่อย่าง ประกอบไปด้วย ทางลาด ทางกระโดด 2.5 เมตร พื้นที่แรงเสียดทานต่ำเพื่อโชว์การยึดเกาะของตัวรถ รวมไปถึงสนามที่มีลักษณะของบ่อน้ำ รวมไปถึงเส้นทางพิเศษ ‘Superloop’ สไตล์ Raaly Cross โดยใช้รูปแบบการแข่งขันของ Rally Cross ที่แบ่งออกเป็น 12 Heat กับอีก 6 รอบสนาม สำหรับการหาผู้ชนะในแต่ล่ะสนาม
Holzer บริษัทวิศวกรรมยานยนต์ของเยอรมันกำลังทำงานร่วมกับ Supercharge เพื่อพัฒนา SC01 และทาง Supercharge เองยังได้พัฒนารูปแบบด้วยความช่วยเหลือจาก British Automobile Racing Club (BARC) และหน่วยงานที่ดูแล Motorsport UK ผู้จัดงานกล่าวว่าพวกเขาจะยินดีสำหรับสถานะ International Series จาก FIA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลของมอเตอร์สปอร์ตโลก
Credit : www.autocar.co.uk
[adsforwp id=”1302″]