เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Kia K4 Hatchback All New ปี 2026 ที่งาน New York International Auto Show 2025 และยืนยันจะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่รถ Hatchback คันนี้ร้างยอดขายมาหลายปี แต่ตอนนี้ได้กลับมาแล้วอย่างน่าอย่างน่ายินดี
โดยคู่แข่งสำคัญของ Kia ในตระกูลรถแฮทช์แบ็ก ได้แก่ Honda Civic, Mazda3, Toyota Corolla และรวมไปถึง Acura Integra อีกด้วย และยังไม่รวมคู่แข่งในตระกูลครอสโอเวอร์ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่ Kia มองเห็นว่านี่ไม่ใช่ปัญหาสำคัญและพร้อมสำหรับ K4 Hatchback ในตลาดสหรัฐอเมริกา
Kia K4 Hatchback เป็นรถแฮทช์แบ็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก โดยมีการออกแบบหลังคาลอยและที่จับประตูหลังที่รวมเข้ากับเสา C ทำให้มองไม่เห็น หลังคาที่ลาดลงอย่างนุ่มนวลช่วยให้มีพื้นที่เหนือศีรษะด้านหลังที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน และรถคันนี้ยังมีพื้นที่วางขาด้านหลังยาวกว่าคู่แข่งทุกรุ่น อย่างไรก็ตาม พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจุได้ถึง 629 ลิตร แต่ก็ยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Honda Civic Hatchback ที่มีความจุด้านหลังถึง 702 ลิตร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือ Kia K4 Hatchback สั้นกว่ารถทรงซีดานโดยรวมถึง 11 นิ้ว
รถยนต์รุ่นซีดาน K4 Hatchback จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่
– เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบให้พละกำลัง 147 แรงม้า
– เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ พละกำลัง 190 แรงม้า
สำหรับในรุ่น GT-Line Turbo เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร จะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง ในขณะที่เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร จะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทั้งในรุ่น GT-Line และ GT-Line Turbo ที่มาพร้อมช่วงล่างสปอร์ตที่ปรับแต่งมาอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว และฟังกัชันการใช้งานที่เร้าใจยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังแล้ว ภายในห้องโดยสารแทบจะเหมือนกับรุ่นซีดาน K4 ทุกประการ โดยมีหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้วสำหรับมาตรวัดและอินโฟเทนเมนต์ มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมายเป็นมาตรฐาน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในขณะที่ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวงอันยอดเยี่ยมของ Kia เป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่น GT-Line Turbo
Kia ยังไม่ได้ยืนยันเกี่ยวกับรายละเอียดรวมไปถึงรุ่นย่อยและราคาในขณะนี้ ดังนั้นเราจึงไม่ทราบว่า K4 Hatchback จะใช้รูปแบบเดียวกันกับรุ่นซีดานหรือไม่ แต่สำหรับรุ่น Hatchback เราคาดว่าราคาจะสูงกว่ารุ่นซีดานเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่ 23,165 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 7.69 แสนบาทและเพิ่มขึ้นเป็น 31,860 ดอลลาร์ หรือประมาณราว ๆ 1.05 ล้านบาท ในรุ่น GT-Line Turbo ที่มาพร้อมฟังก์ชันใช้งานอย่างครบครัน หากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมจะนำมารายงานต่อไป
ที่มา: www.motor1.com