Audi ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมจากประเทศเยอรมัน ได้ออกมาประกาศถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ Audi A8 รถยนต์ซีดานขนาดใหญ่เจอเนอเรชั่นถัดไป ที่จะเปิดตัวในปี 2024 โดยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นรถยนต์ BEV ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ
[adsforwp id=”1302″]
Audi Grandsphere “Concept”
นับว่าฉีกแนวทางของผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมันเป็นอย่างมากสำหรับ Audi ที่ตัดสินใจเดินหน้าพัฒนาโมเดลเรือธงยอดนิยมของตัวเอง จากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่ยานยนต์ BEV เต็มรูปแบบ สวนทางกับ Mercedes ที่ปัจจุบันพึ่งจะขยาย S-Ckass ให้ยังอยู่ในตลาดควบคู่ไปกับโมเดลไฟฟ้าอย่าง EQS หรือ BMW ที่ยังคใช้ 7 Series เป็นโมเดลหลัก และแชร์แพลตฟอร์มไปยัง i7 Series ที่ใช้มอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า
[adsforwp id=”1302″]
หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Audi อย่าง Marc Lichte ได้ออกมากล่าวถึงการพัฒนา Audi A8 เจนเนอเรชั่นถัดไปว่า ตัวรถจะได้แนวคิดมาจาก Audi Grandsphere รถยนต์แนวคิดที่เปิดตัวเมื่อปี 2021 ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อใช้เป็นรากฐานให้กับผลิตภัณฑ์ BEV ของบริษัท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของการเปลี่ยนสถานะจากผู้ผลิตยานยนต์ที่ใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปสู่ผู้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2033
Marc Lichte ได้ให้สัมภาษณ์กับ Autocar ว่า “Grandsphere นั้นใกล้เคียงมากกับรูปลักษณ์ของ A8 รุ่นถัดไป มันจะไม่ใช่สำเนาของรถโชว์ แต่ภาพตัวอย่างนี้มีความเป็นรูปธรรมมาก และจะเป็นรูปแบบเดียวกับที่จะใช้งานในการผลิตเพื่อการจำหน่ายจริง”
โดยทาง Autocar ได้รายงานว่า Audi A8 รุ่นใหม่นั้นจะพัฒนาบนแพลตฟอร์ม Premium Platform Electric (PPE )ที่ทางบริษัทพัฒนาร่วมกับ Porsche ซึ่งตัวรถจะมีความยาวที่มากเป็นพิเศษ จนถูกขนานนามว่าเป็น “เครื่องบินส่วนตัวบนท้องถนน” โดยตัวรถจะมีความยาวที่มากถึง 5,350 มิลลิเมตร ตั้งอยู่บนฐานล้อ 3,190 มิลลิเมตร ซึ่งจะยาวกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีฐานล้อยาวที่สุดของ Audi เสียอีก
จากข้อมูลทำให้เกิดการเชื่อมโยง ถึงแม้ว่าผู้ผลิตจะยังไม่มีการประกาศสเปกอย่างเป็นทางการของตัวรถรุ่นใหม่ แต่เมื่อกล่าวว่าจะมีความใกล้เคียงกับ Grandsphere จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หากสเปกของตัวรถจะมีความใกล้เคียงกัน โดยตัวรถ Grandsphere จะติดตั้งมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าขนาด 530 kW ให้แรงบิดที่มากถึง 960 นิวตันเมตร โดยมีคุณสมบัติในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 4 วินาที
ในส่วนของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งบน Grandsphere นั้น จะมีขนาด 120 kWh สามารถทำระยะในการวิ่งได้สูงสุด 750 กิโลเมตร แบตเตอรี่มีคุณสมบัติในการประจุไฟบนถานีจ่ายไฟแบบ DC โดยใช้เวลาชาร์จจาก 5-80% ได้ในเวลาเพียง 20 นาที และสามารถเพิ่มระยะการวิ่งได้ 300 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จด่วน 10 นาที
ยังไม่มีใครเคยพบเจอเจ้า Audi A8 รุ่นใหม่ในการทดสอบ ด้วยกำหนดการที่ทางบริษัทได้วางไว้ว่าจะเปิดตัวในปี 2024 ซึ่งแน่นอนว่าในปี 2023 นี้ เราอาจจะยังไม่ได้เห็นเวอร์ชั่นที่เสร็จสมบูรณ์แบบ 100% สื่อต่างประเทศหลายๆสำนักต่างคาดเดาว่า ตัวรถน่าจะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบในพื้นที่ปิด และต้องใช้เวลาอีกอย่างเร็ว 8 – 10 เดือนกว่าตัวรถจะได้ออกมาวิ่งทดสอบบนท้องถนน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]