Xpeng เปิดตัว X9 รถตู้ MPV ไฟฟ้าล้วน100% รุ่นปี 2025 เป็นโฉมที่ปรับปรุงใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มเปิดขายล่วงหน้าแบบ Pre-Order แล้วในวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการวางไว้เริ่มต้นที่ 399,800 หยวน หรือราว ๆ 1.81 ล้านบาท เป็นราคาเริ่มต้นที่แพงกว่ารุ่นโฉมปี 2024 ประมาณ 181,677 แสนบาท แต่ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะยังคงเท่าเดิม ทาง Xpeng อ้างว่ารุ่นปี 2025 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในหลายๆ จุดมีมูลค่ากว่า 80,000 หยวน หรือราว ๆ 363,363 แสนบาท โดยเน้นไปที่การยกระดับความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร เทคโนโลยีที่ทันสมัย และความสามารถในการขับขี่อย่างอัจฉริยะ เป็นต้น
รายละเอียดของราคา:
-รุ่นระยะทางวิ่ง 650 กม. ราคาประมาณราว ๆ (1.63 ล้านบาท)
-รุ่นระยะทางวิ่ง 740 กม. ราคาประมาณราว ๆ (1.72 ล้านบาท)
-รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ระยะทางวิ่ง 702 กม. ราคาประมาณราว ๆ (1.81ล้านบาท)
-รุ่น Starship Edition (รวมอุปกรณ์ตกแต่งเสริมทั้งหมด) ระยะทางวิ่ง 702 กม. ราคาประมาณราว ๆ (1.90 ล้านบาท)
ระบบถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ “ความสะดวกสบายขั้นสุดยอด”
Xpeng X9 รุ่นปี 2025 ได้รับการขนานนามว่า “ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเต็ม 100% เพื่อเป็นยานพาหนะที่สะดวกสบายที่สุด” โดยมีการปรับปรุงภายในมากมายหลายจุด โดยได้เพิ่มวัสดุสัมผัสที่นุ่มนวลอีก 3.2 ตารางเมตร ทำให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 26.6 ตารางเมตร อย่างเช่น ปุ่มและชิ้นส่วนตกแต่งต่างๆ ได้มีการเคลือบ PVD สูญญากาศระดับพรีเมียมมากขึ้นอีกด้วย
การอัปเกรดที่โดดเด่นก็คือการใช้เทคโนโลยีที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก NASA เข้ากับเบาะนั่ง Zero-Gravity ซึ่งปัจจุบันเป็นมาตรฐานสำหรับเบาะแถวที่ 1 และเบาะแถวที่ 2 ทาง Xpeng อ้างว่าเบาะนั่งที่ปรับปรุงใหม่ช่วยลดแรงกดที่สะโพกได้ 22% แรงกดที่ข้อต่อสะโพกได้ 36% แรงกดที่กระดูกสันหลังได้ 60% และแรงกดที่กระดูกสันหลังได้ 13% เมื่อเปิดใช้งาน ฟังก์ชันนวด 10 ตำแหน่งเป็นมาตรฐานติดตั้งมาให้ใช้งาน โดยจะมีระบบนวด อีก 6 ตำแหน่งเสริมมาเป็นทางเลือก รวมทั้งหมด 16 ตำแหน่ง
การเข้าถึงและการใช้งานของแถวเบาะที่ 3 ซึ่งมักถูกละเลยสำหรับรถตู้ MPV ในโฉมนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยสามารถเดินผ่านตรงกลางของเบาะแถวที่ 2 ได้ เป็นการออกแบบช่วยให้เข้าถึงด้านหลังแถวที่ 3 ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ห้องโดยสารมีพื้นที่ใช้สอย 7.7 ตารางเมตร ความสูงภายใน 1,360 มม. และทางเดินกว้าง 165 มม. ช่วยให้เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และตำแหน่งเบาะแถวที่ 3 ได้รับการอัปเกรดในจุดที่สำคัญๆ รวมถึงพนักพิงหลังและพนักพิงศีรษะแบบปรับไฟฟ้าได้อย่างไม่จำกัดอีกด้วย และสามารถพับเบาะราบได้พื้นที่เพิ่มขึ้น พื้นที่ของ Xpeng เมื่อเทียบกับแถวที่ 2 ของ Mercedes-Benz GLE กว้างขึ้นกว่ามาก
เทคโนโลยีและความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นแบบจัดเต็ม
ประตูแบบปิดอย่างนิ่มนวลเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับแถวแรก ที่มาพร้อมหน้าจอความบันเทิงด้านหลังขนาด 21.4 นิ้วที่โดดเด่นได้รับการรับรองการป้องกันแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland และมีฟังก์ชันปรับเอียงได้ 0-75 ° C อุปกรณ์เพิ่มเติมใหม่ ได้แก่ เต้ารับไฟฟ้า 220 โวลต์ ระบบคาราโอเกะแบบไม่ต้องใช้ไมโครโฟน ตู้เย็น/พร้อมระบบอุ่นแบบรวมความจุกว่า 10.8 ลิตร เครื่องปรับอากาศตรงกลางแบบรอบทิศทาง และเบาะแถวที่ 3 แบบพับไฟฟ้าด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว
ในด้านเทคโนโลยี ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Turing AI (ADAS) ของ Xpeng กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่ม “ไฟสีฟ้าเล็กๆ” เป็น AI ADAS ใหม่ เพื่อปรับปรุงการสื่อสารด้วยภาพสำหรับการทำงานของระบบ
การขับขี่และความอย่างนุ่มนวล
X9 ปี 2025 ยังคงมาพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังแบบแอคทีฟ ซึ่งช่วยให้มีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.4 เมตร ซึ่งถือเป็นผู้นำสำหรับรถใน่คลาสเดียวกัน ช่วยเพิ่มการบังคับควบคุมด้วย AI ขนาดใหญ่เพื่อจำลองและปรับความสบายของตัวถังให้เหมาะสมที่สุด โดยใช้ “อัลกอริทึมป้องกันอาการเมารถแบบ 6D สบาย ๆ” เพื่อลดการโคลงตัวของตัวรถขณะเข้าโค้งและพลิกคว่ำเมื่อเจอทางขรุขระ
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุ่งระบบเสียงเพื่อลดเสียง การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) Xpeng ระบุว่ามีการลงทุนกว่า 50 ล้านหยวน ราว ๆกว่า 226 ล้านบาทในการปรับปรุงระบบ NVH กว่า 58 รายการสำหรับรุ่นปี 2025 โดยมุ่งเป้าไปที่ “ความเงียบเป็นพิเศษ” ซึ่งเพิ่มการลงทุน NVH ยอดรวมสะสมของบริษัทเกินกว่า 500 ล้านหยวน หรือราว ๆ (2,267ล้านบาท)
ระบบส่งกำลังและรูปลักษณ์ภายนอก
X9 พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มรองรับแรงดันสูง 800V มาตรฐาน โดยให้ผู้ซื้อเลือกได้ระหว่างแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NMC 105 kWh หรือชุดแบตเตอรี่ LFP 94.8 kWh
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก รุ่นปี 2025 มีสีใหม่ให้เลือก ได้แก่สี Nebula Purple, Galaxy Blue และ Matte Starship Gray ร่วมกับสี Starship Gray, Nebula White, New Moon Silver และสี Midnight Black ที่มีอยู่แล้ว การออกแบบล้อเป็นล้อ “Star Gaze” ขนาด 20 นิ้วเสริมด้วยฝาครอบตรงกลางแบบลอยแบบไดนามิก
กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นรถตู้ MPV ไฟฟ้าล้วนระดับพรีเมียม
การเปิดตัว X9 รุ่นอัปเกรดใหม่นี้ เพื่อเป็นการเน้นย้ำกลยุทธ์ของ Xpeng ในการท้าชนคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มตลาดรถ MPV หลัก หลังจากผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2025 ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก (ด้วยยอดการส่งมอบรถไปแล้ว 94,008 คัน ถือเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ EV ชั้นนำของจีน) โดยที่รถเก๋ง MONA M03 และ SUV G6 กลายเป็นตัวขับเคลื่อนปริมาณการผลิต โดย Xpeng X9 ตั้งเป้าที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับลูกค้ากลุ่มตลาด MPV ที่กำลังเติบโตและมีการแข่งขันสูง
Xpeng ตั้งข้อสังเกตว่าตลาด MPV ของจีนกำลังเปลี่ยนไปสู่รุ่นพรีเมียม โดยเน้นลูกค้าครอบครัว และเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่รุ่นน้ำมันเป็นดั้งเดิมอย่าง Buick GL8 และ Toyota Sienna/Granvia ยังคงได้รับความนิยม และคู่แข่งอย่าง Denza D9, ZEEKR 009 และ BYD Xia กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับการวิ่งในเมือง ส่วนลูกค้ากลุ่ม MPV ไฟฟ้าล้วนยังคงมีคู่แข่งน้อยกว่า โดย Xpeng เชื่อว่าการที่ X9 เน้นด้านระบบอัจฉริยะและพลังงานไฟฟ้าเป็นข้อได้เปรียบของผู้นำตลาด โดยคาดการณ์ว่า EV อัจฉริยะนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงตลาด MPV ดั้งเดิมเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ให้กับแบรนด์จีนระดับพรีเมียม
ที่มา : carnewschina.com