Toyota Australia ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับนำเอาชุดปรับแต่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากบนโมเดลยอดนิยมอย่าง Corolla กับชุดแต่ง “Nightshade Edition” ที่ไม่มีการผลิตออกมาในปี 2023 แต่จะกลับมาอีกครั้งในปี 2024 พร้อมกับตัวเลือกที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เกือบทุกรุ่นในซีรี่ส์ Corolla
[adsforwp id=”1302″]
โดยการประกาศนี้ Toyota Corolla ปี 2024 จะได้รับชุดแต่ง Nightshade Edition ซึ่งจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทั้งในรุ่น Sedan, Hatchback รวมไปถึงครั้งแรกที่จะนำเอาชุดแต่งไปติดตั้งบนรุ่น Hybrid อีกด้วย โดยจะใช้พื้นฐานจากตัวรถเกรด SE โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเริ่มจากล้อขนาด 18 นิ้วสีบรอนซ์ และต่อด้วยกระจังหน้าแบบสปอร์ตสีดำเงาและตราสัญลักษณ์ Toyota แบบรมดำ
[adsforwp id=”1302″]
กระจกมองข้างและตราด้านหลังยังเป็นสีดำ เช่นเดียวกับเสาอากาศแบบครีบฉลาม ดิฟฟิวเซอร์ด้านล่าง และ Vented Sport Wing ส่วนท้ายยังได้รับสปอยเลอร์หลังใหม่เพื่อช่วยให้มีเสน่ห์ดึงดูดมากขึ้น
ฝนขณะที่ตัวเลือกสีสัน จะไม่ถึงจำกัดเฉพาะสีดำอีกต่อไป แต่จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือสีตัวถังแบบสีเดียวที่จะมีตัวเลือกสี Midnight Black Metallic, Classic Silver Metallic หรือ Ice Cap ให้ได้เลือกใช้งาน อีกทั้งยังมีสีตัวถังแบบทูโทน Windchill Pearl พร้อมหลังคาสีดำ, Classic Silver พร้อมหลังคาสีดำ หรือ Midnight Black Metallic ที่จะมาพร้อมกับหลังคาสีดำแบบด้าน ตัดกับสีตัวรถแบบเงา
ภายในห้องโดยสาร จะได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยจะมาพร้อมกับเบาะนั่งแบบสปอร์ตหน้าปัดขนาด 4.2 นิ้ว หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และ Toyota Safety Sense 3.0 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีตัวเลือกแพ็คเกจ JBL Audio นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มแพ็คเกจ Nightshade ลงในการตกแต่ง SE Premium ซึ่งเพิ่มมูนรูฟไฟฟ้า การชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย Qi จอภาพ blind-spot และการแจ้งเตือนการจราจรด้านหลังเป็นตัวเลือกเสริม
เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ Corolla Hybrid ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร และมอเตอร์ 2 ตัวที่ช่วยให้ได้ 47 mpg (5.0 ลิตร/100 กม.) ในขณะที่รุ่น Sedan และ Hatchback จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่ให้กำลัง 169 แรงม้า
ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องของราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยสื่อจากแดนจิงโจ้ได้รายงานว่า ตัวรถจะมีการเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมปีนี้เป็นอย่างช้า และจะเป็นโมเดลสำหรับการจำหน่ายในตลาดรถยนต์ช่วงต้นปี 2024 อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]