ชัดเจนแล้วว่า Toyota Crown Estate ที่ถูกวางให้เป็นโมเดลปิดท้ายของ CRrown-Series ยุคใหม่ จะถูกเปลี่ยนชื่อในตลาดอเมริกา โดยมีการยืนยันแล้วว่าตัวรถเวอร์ชั่นอเมริกานั้น จะถูกวางจำหน่ายภายใต้ชื่อ Toyota Crown Signia
[adsforwp id=”1302″]
Toyota ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการเปิดตัว Crown Signia โดยจะวางให้เป็นโมเดลสำหรับปีหน้า ในการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในตลาดรถยนต์อเมริกา ร่วมกับ Crown Sedan โดยมีกำหนดการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในฤดูร้อนของปี 2024 ในสหรัฐฯ
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถ Crown Signia จะมีระบบส่งกำลังให้เลือกใช้งานเพียงแบบเดียว คือเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรไฮบริด โดยมีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ มีโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ Eco, Normal และ Sport ในโหมด Eco จะเพิ่มระยะการใช้งานแบตเตอรี่และประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงให้สูงสุด ในขณะที่โหมด Sport ช่วยให้การตอบสนองของคันเร่งคมชัดขึ้น โหมด EV ช่วยให้ Crown ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่เท่านั้น โดยจะเป็นโหมดที่สามารถใช้งานได้เฉพาะความเร็วต่ำ และมีระยะการเดินทางแบบสั้นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีการจารจรที่ติดขัดเป็นอย่างมาก
เครื่องยนต์ไฮบริดใหม่นี้ จะสามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ 243 แรงม้า (hp) โดยมีอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 36 ไมล์ต่อแกลลอน (ประมาณ 15.6 กิโลเมตรต่อลิตร) โดยตัวรถจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อยสี่ล้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งที่ด้านหลังซึ่งขับเคลื่อนล้อหลัง สามารถลากจูงสิ่งของที่มีน้ำหนักได้มากถึง 2,700 ปอนด์ (ประมาณ 1.22 ตัน) และมีระบบส่งกำลังแบบแปรผันอย่างต่อเนื่อง หรือระบบเกียร์แบบ CVT
ภายในห้องโดยสาร จะพบกับหน้าจอดิจิตอลส่วนคนขับขนาด 12.3 นิ้วที่ปรับแต่งได้ ระบบอินโฟเทนเมนต์จะแสดงผลบนหน้าจอส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน คอนโซลกลางมีแท่นชาร์จไร้สายแนวตั้งและพอร์ต USB-C จำนวน 3 พอร์ต ผู้โดยสารเบาะหลังจะมีพอร์ต 2 ช่อง ช่องระบายอากาศ 2 ช่อง ที่วางแก้ว 2 ช่อง และช่องกระเป๋าด้านหลังเบาะ มีที่นั่งระบบทำความร้อนและระบายอากาศ
Toyota จะนำเสนอ Crown Signia ด้วยกัน 2 รูปแบบ XLE และ Limited โดยมีล้อและวัสดุเบาะนั่งที่แตกต่างกัน รุ่น XLE จะมีล้อโลหะผสมทูโทนสีดำ ขนาด 19 นิ้ว พร้อมเบาะนั่งและหนังห้องโดยสารที่หุ้มด้วยวัสดุ SofTex ในขณะที่รุ่น Limited มีล้ออัลลอยด์สีเทาเมทัลลิกขนาดใหญ่ 21 นิ้ว และเบาะนั่งหุ้มหนังเย็บตะเข็บคู่
โมเดลใหม่มาพร้อมกับมาตรฐาน Toyota Safety Sense 3.0 ซึ่งรวมถึงการชนล่วงหน้าพร้อมการตรวจจับคนเดินถนน ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยว ระบบควบคุมความเร็วคงที่ด้วยเรดาร์ไดนามิกเต็มช่วงความเร็ว ระบบช่วยป้ายถนน ระบบไฟสูงอัตโนมัติ และอีกมากมาย แพ็คเกจเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นอุปกรณ์เสริมพร้อมระบบช่วยเปลี่ยนเลนและจอภาพมุมมองแบบพาโนรามามีให้สำหรับรุ่น Limited
ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ จนกว่าจะถึงฤดูร้อนของปีหน้า ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ตัวรถจะเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงเวลาที่เหลือนี้ คาดว่าทางผู้ผลิตจะมีการออกมาเปิดเผยข้อมูลของตัวรถที่มากกว่านี้ ซึ่งรวมไปถึงราคาจำหน่ายและแพ็กเกจเสริมต่างๆ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]