ในที่สุดก็เผยโฉมอย่างเป็นทางการเสียที สำหรับ Toyota GR Corolla 2025 แฮทช์แบ็กรุ่นปรับปรุงใหม่ ที่มาพร้อมกับตัวเลือก two-pedal แรงบิดที่เพิ่มขึ้น ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ระบบกันสะเทือนที่คมขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือระบบเกียร์ใหม่ ที่เรียกว่า DAT Gearbox
Toyota GR Corolla เป็นรถแฮทช์แบ็กที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันแรลลี่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ และเมื่อพิจารณาจากการเปิดตัว Supra และ 86 ของ Toyota ที่ปรับปรุงมาจาก Gazoo Racing (GR) ที่ประสบความสำเร็จพอสมควร ก็รู้สึกเหมือนว่าผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ได้กลับมาเชื่อมโยงกับเสน่ห์ของรถที่ขับสนุกซึ่งเคยมีอยู่ทั่วไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนอีกครั้ง
ไฮไลท์ที่น่าสนใจที่สุดบน Toyota GR Corolla 2025 คือระบบเกียร์ DAT Gearbox ซึ่งเป็นชุดเกียร์อัตโนมัติใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อ GR Corolla โดยเฉพาะ นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังกล่าวว่าระบบเกียร์ใหม่นี้ เพิ่มแรงบิด ท่อส่งกำลังที่ดุดันยิ่งขึ้น และลูกเล่นที่โดดเด่นอีกสองสามอย่าง โดยเจ้า DAT นั้นจะย่อมาจาก Direct Automatic Transmission ซึ่งให้การเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและเลือกเกียร์ได้เหมาะสมที่สุดมีการกล่าวกันว่าการปรับแต่งนั้นอาศัยข้อมูลจากผู้ขับขี่มากกว่าพลวัตของรถ ซึ่งมีความแตกต่างระหว่าง Corolla กับเกียร์อัตโนมัติแปดสปีดที่มีอยู่ในรถสปอร์ต GR Supra และ GR86 ซึ่งระบบส่งกำลังได้รับการตั้งโปรแกรมให้ตอบสนองต่อพฤติกรรมจริงของรถขณะเคลื่อนที่บนถนนมากพอๆ กับอินพุตโดยตรงของผู้ขับขี่
อีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นของชุดเกียร์นี้คือ การติดตั้งแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังคอพวงมาลัย โดยจะทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเพิ่มหรือลดเกียร์ได้อย่างอิสระ โดยมีอัตราทดเกียร์ที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ เกียร์ของ Toyota เป็นระบบแปลงแรงบิดแบบธรรมดา ไม่ใช่เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ ที่เปลี่ยนเกียร์เร็วและเฉียบคมกว่า และมีความแตกต่างกับระบบเกียร์ของ Volkswagen Golf R นอกจากนี้ ยังมีการนำ Launch Control มาใช้กับเกียร์อัตโนมัติแปดสปีดใหม่ด้วย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าตื่นเต้นบน GR Corolla 2025 คือการปรับจูนเครื่องยนต์ใหม่โดยเครื่องยนต์ G16E-GTS ขนาด 1.6 ลิตร มีการปรับกำลังให้มีตัวเลขที่สูงถึง 300 แรงม้า (hp) พร้อมแรงบิด 295 lb-ft เพิ่มขึ้นจากรุ่น Core และ Circuit ราวๆ 22 lb-ft และเทียบเท่ากับรุ่น Morizo Edition ที่เน้นการวิ่งบนสนามแข่งแบบฮาร์ดคอร์และไม่มีเบาะหลัง
ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับปรุงครั้งใหม่ โดยจะได้รับสปริงคืนตัวด้านหน้าและด้านหลัง Toyota กล่าวว่าได้ปรับแต่งเรขาคณิตของระบบกันสะเทือนด้านหลังของแฮทช์แบ็คด้วยสปริงและเหล็กกันโคลงที่ปรับปรุงใหม่ รวมถึงจุดรับน้ำหนักของแขนลากที่สูงขึ้นใหม่ วัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือเพื่อให้ GR Corolla แบนราบและมีเสถียรภาพมากขึ้นในทางโค้งที่ความเร็วสูง
ภายนอกตัวรถ จะได้รับกันชนหน้าใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบระบายความร้อนใหม่ ที่เสริมเข้ามาโดยมีส่วนประกอบระบายความร้อนอื่นๆ เช่น หม้อน้ำ อินเตอร์คูลเลอร์ ท่อเบรกที่อัปเกรด และหม้อน้ำรองแบบใหม่ที่มีจำหน่ายแยก กันชนและฝากระโปรงหน้าที่นูนขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Premium Plus ซึ่งแน่นอนว่าให้ความรู้สึกเหมือนรถญี่ปุ่นเลยทีเดียว ช่องระบายอากาศน่าจะช่วยในเรื่องอุณหภูมิในการทำงานได้เช่นกัน
คุณสมบัติอื่นๆ ของรุ่นใหม่ได้แก่ ระบบเสียงระดับพรีเมียม JBL แปดลำโพง และเครื่องชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย รุ่น GR Corolla Premium ปี 2025 มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงาและกันชนหลังด้านล่างแบบมีช่องระบายอากาศ และมีให้เลือกสีภายนอก ได้แก่ Ice Cap, Heavy Metal, Black และ Supersonic Red รุ่น Circuit Edition จะหยุดจำหน่ายในปี 2025 แต่รุ่น Premium Plus ยังคงอยู่ในตำแหน่งสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะค่อนข้างแตกต่างกัน องค์ประกอบที่เหมือนกันคือหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่หลอมขึ้นใหม่ จอแสดงผลแบบเฮดอัพเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ในเกรดนี้
ล้อ BBS ขนาด 18 นิ้วที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากรุ่นก่อนหน้า ถูกแทนที่ด้วยล้ออัลลอยด์สีดำด้านสเปกของผู้ผลิตเอง ซึ่งเคลมว่า มีค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทายที่ต่ำกว่า และมีน้ำหนักที่เบากว่า แต่ทนทานใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังได้ใช้ตะเข็บสีแดงแทนสีน้ำเงิน
อย่างไรก็ตาม ตัวรถ Toyota GR Corolla 2025 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในหน้าหนาวของปีนี้ ซึ่งทางผู้พัฒนาเองยังไม่ระบุวันเปิดตัวที่ชัดเจน และยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่โดยรวมแล้วคาดว่าตัวรถจะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นปัจจุบันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motortrend.com