เป็นการเปิดตัวในตลาดอเมริกาเหนืออย่างเป็นทางการอีกครั้งของรถสปอร์ตแฮทช์แบ็กรุ่นใหม่ Toyota GR Corolla รุ่นปี 2025 ที่มีการปรับปรุงจากเดิม โดยเพิ่มอุปกรณ์พื้นฐานใหม่ๆ ทำให้ตัวรถดูน่าสนใจมากกว่าเดิม
Toyota GR Corolla เป็นรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กที่ได้นับความนิยมในฐานะของรถยนต์ประสิทธิภาพสูง โดยตัวรถได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งแรลลี่ และมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบชาร์จ 300 แรงม้าที่ทรงพลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบกันสะเทือนที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานในรูปแบบของการขับขี่ที่เน้นความแม่นยำ ทั้งในเรื่องของการเข้าและออกโค้ง รวมไปถึงอัตราเร่งที่พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า
สำหรับรุ่นปี 2025 ในตลาดอเมริกาเหนือจะมีการเพิ่มรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดเข้ามา ทำให้ GR Corolla ดึงดูดผู้ซื้อได้มากขึ้น แม้ว่าเราจะรู้สึกว่าเกียร์ธรรมดาเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์การขับขี่ขั้นสูง แต่อย่างน้อย GR Corolla ก็รวมโหมดการขับขี่ และโหมดการออกตัวรูปแบบเดียวกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติไว้บนตัวรถเกียร์ธรรมดาด้วยเหมือนกัน
มาดูกันที่ขุมกำลังของ GR Corolla 2025 กันสักหน่อย ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ G16E-GTS ขนาด 1.6 ลิตร 3 สูบเทอร์โบชาร์จ ที่มให้กำลังขับสูงสุด 300 แรงม้า โดยตัวรถเวอร์ชั่นใหม่นี้ จะเพิ่มแรงบิดเป็น 295 Ib-Ft เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปด้านหน้าและด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และรถเกียร์อัตโนมัติก็มีระบบควบคุมการออกตัว แผงด้านหน้าได้รับการปรับแต่งเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้น และการปรับแต่งช่วงล่างก็ช่วยควบคุมการทรงตัวและเพิ่มการยึดเกาะที่ดีกว่าเดิม
ในรุ่นที่สูงขึ้นอย่าง Premium Plus จะมีชิ้นส่วนใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวรถ นั่นก็คือ หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ฝากระโปรงหน้าทรงนูน และจอแสดงผลแบบ HUD โดยยังคงมีรุ่น Core ที่ถือว่าเป็นรุ่นมาตรฐาน ซึ่งจะสะท้อนภาพของ GR Corolla ได้ดีที่สุด โดยรุ่นใหม่นี้จะได้รับเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป เป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้วด้วย ยิ่งทำให้ตัวรถมีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก จากข้อมูลเชิงประสิทธิภาพนั้น ระบุว่า ตัวรถจะมีอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในเวลา 11.4 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Honda Civic Type R และ Volkswagen Golf R เพียงเล็กน้อย
ในส่วนของการจำหน่ายนั้น Toyota GR Corolla รุ่นปี 2025 เวอร์ชั่นอเมริกาเหนือ จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 39,995 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 1.30 ล้านบาท และมีราคาสูงสุดที่ 48,650 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 1.58 ล้านบาท ในรุ่น Premium Plus เกียร์อัตโนมัติ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก creative311.com www.caranddriver.com