หลังจากเปิดตัวในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา สำหรับ Toyota Hilux Revo BEV รถปิ๊กอัพไฟฟ้า 100% ก็กำลังเดินหน้าเตรียมที่จะเปิดสายการผลิตจริงในโรงงานประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากเลื่อนการผลิตออกมาจากกำหนดการเดิมที่วางไว้ในตอนเปิดตัวรถแนวคิด
เป็นที่ชัดเจนว่า Toyota เป็นผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นเพียงรายเดียวเท่านั้นที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาแพลตฟอร์มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ถึงแม้ว่าจะมีแนวทางเป็นของตัวเอง โดยต้องขอยกถ้อยแถลงของ ประธาน Akio Toyoda ที่เคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีอัตราส่วนเพียง 30% จากตลาดทั้งหมด และไม่ใช่คำตอบหรือทางออกสำหรับยานยนต์พลังงานสะอาด ซึ่งเราก็เห็นว่า Toyota เองก็เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเครื่องยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนมากกว่า แบตเตอรี่
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า Toyota Hilux Revo BEV ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมานั้น กำลังจะขยับตัวเองจากรถต้นแบบไปสู่รถผลิตจริง ซึ่งในตอนที่เปิดตัวนั้น ทางผู้ผลิตตั้งใจที่จะเปิดสายการผลิตตัวรถให้ได้ในช่วงปลายปี 2023 แต่ด้วยปัญหาบางประการทำให้เรื่องนี้ต้องเลื่อนออกไป และล่าสุดก็กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง หลังสื่อนอกอย่าง motor1 เริ่มตีข่าวการมาถึงของ Isuzu D-Max BEV สิ่งกลายเป็นว่าโมเดลใหม่นี้ เป็นตัวกระตุ้นให้ Toyota เร่งมือในการสร้างส่วนแบ่งตลาดรถปิ๊กอัพในประเทศไทย และอาเซี่ยน และน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ถ้าบริษัทชิงพื้นที่ตลาดได้ก่อน
ล่าสุดผู้บริหารระดับสูงของ Toyota Motor Asia ที่ให้สัมภาษณ์กับ Reuters สื่อดังระดับโลก เมื่อไม่นานมานี้ โดยเปิดเผยว่า มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมดจะถูกประกอบในประเทศไทย และมีเป้าหมายในการทำสัดส่วนของรถปิ๊กอัพไฟฟ้า 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมดจากซีรี่ส์ Hilux Revo นอกเหนือจากประเทศไทยแล้ว ประเทศต่างๆในอาเซี่ยนเองก็มีความเป็นไปได้ที่ตัวรถจะถูกส่งออกไปจำหน่าย โดยมีอินโดนีเซียอีกหนึ่งประเทศที่น่าจะเกิดไลน์ผลิตเดียวกัน แต่จะรองรับตลาดคนล่ะภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจำเพาะของ Hilux Revo BEV ยังคงเป็นความลับ โดยก่อนหน้านี้ ทางผู้ผลิตเปิดเผยเพียงว่า ตัวรถจะมีระยะทางในการวิ่งราวๆ 200 กิโลเมตรต่อชาร์จ ซึ่งไม่เปิดเผยมาตรฐานในการทดสอบ ซึ่งในตัวต้นแบบนั้น จะเป็นรถปิ๊กอัพแบบหัวเดี่ยวสำหรับการบรรทุกโดยตรง ซึ่งต้องบอกตรงนี้เลยว่า หากจะวิ่งได้ 200 กิโลเมตรต่อชาร์จจริงก็อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานตามลักษณะงานที่ตัวรถนิยมถูกใช้งานในประเทศไทยมากนัก
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com