หลังจากเปิดตัวในฐานะของรถต้นแบบสำหรับ Toyota S-FR โรดสเตอร์ขนาดเล็ก ที่เป็นการออกแบบมาเพื่อระลึกถึง Sports 800 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกของบริษัท เมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมา แต่ด้วยกระแสที่เกิดขึ้น จึงมีข่าวลืออย่างมากว่า รถต้นแบบคันนี้กำลังจะถูกพัฒนาเพื่อเป็นเวอร์ชั่นการผลิตจำนวนมากในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
Toyota ได้พัฒนารถสปอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลัง และยังไม่เสร็จสิ้น ความพยายามล่าสุดของบริษัทคือการปรับปรุงรุ่นที่มีอยู่ แต่รายงานจากญี่ปุ่นระบุว่าบริษัทกำลังมองหารถสปอร์ตขนาดเล็กรุ่นใหม่ทั้งหมดโดยอิงจากแนวคิด S-FR ที่เก่าแก่เกือบสิบปี
แนวคิด S-FR เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กที่สร้างขึ้นเพื่อยกย่อง Sports 800 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกของบริษัท เปิดตัวรางแรกเมื่อปี 2015 ซึ่ง Sports 800 ที่จำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่นนั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และเกียร์ธรรมดา ซึ่งจะเป็นตัวอย่างของ 2000GT ในตำนาน แนวคิด S-FR ซึ่งถูกกล่าวขานว่าหมายถึง รถยนต์เครื่องยนต์แบบวางหน้าแต่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง
Daihatsu Vision Copen
ข่าวลือดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อปีที่แล้วที่งาน Japan Mobility Show เมื่อ Daihatsu ซึ่งเป็นบริษัทในเครือผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กของ Toyota ได้เปิดเผยแนวคิด Vision Copen ไม่ต้องใช้จินตนาการมากนักในการดูว่าแนวคิดนี้ มันมีความเกี่ยวข้องกับ S-FR และคำประกาศอย่างเปิดเผยว่า Toyota จะต้องผลิตรถสปอร์ตระดับพื้นฐานทั้งหมดโดยร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นเพื่อแบ่งต้นทุน ซึ่งยิ่งทำให้กระแสตอบรับยิ่งร้อนแรงขึ้นไปอีก
หากสมมติว่า Vision Copen เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของรุ่นถัดไป สถิติก็ดูน่าเชื่อถือ ต่างจาก Copen ในปัจจุบัน แนวคิด Vision ขับเคลื่อนล้อหลังเช่นเดียวกับแนวคิด S-FR แต่ยังคงใช้รูปแบบสามสูบเทอร์โบชาร์จของ Daihatsu ที่ผลิตขึ้น แต่เพิ่มจากความจุ 660 ซีซี เป็น 1,300 ซีซีแทน
คำถามที่สำคัญกว่าคือ Toyota จะขายรถรุ่นนี้นอกภูมิภาคเอเชียหรือไม่ วิ่งที่ดูจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในเรื่องนี้ก็คือขนาดของตัวรถ ที่ว่ากันตามตรงแล้ว ในตลาดอเมริกาและยุโรป อาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่าตลาดเอเชีย และยิ่งไปกว่านั้นการพัฒนาตัวรถสำหรับตลาดในฝั่งยุโรปและอเมริกา มักจะต้องมีการพัฒนาที่เหนือกว่าตลาดเอเชียเสมอ นั่นก็หมายถึงต้นทุนในการพัฒนาที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นอุปสรรคด้านผลกำไรแม้จะต้องเสียค่าวิศวกรรมที่แพงสำหรับตลาดส่งออกก็ตาม และยิ่งไปกว่านั้น ยอดการจำหน่ายของโมเดลปัจจุบันอย่าง Toyota GR86 และ Mazda MX-5 เองก็ไม่ได้สร้างกระแสในตลาดอเมริกาหรือยุโรปด้วย การใส่โมเดลใหม่เข้าไปอีก อาจจะไม่ใช้ทางเลือกที่ดีนัก
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motortrend.com