Xpeng G6 ปี 2025 ได้มีการอัพเกรดใหม่กว่า 81 รายการ ในประเทศจีน โดยทางค่ายได้โชว์กระจังหน้าที่ออกแบบใหม่ มีการเน้นแถบไฟ LED “galaxy light wing” ในลักษณะเต็มเป็นแนวกว้างใหม่ดูสวยงามสะดุดตา แทนที่กลุ่มไฟในเซ็กเมนต์ก่อนหน้า โลโก้ Xpeng ย้ายไปอยู่ที่ฝากระโปรงหน้ารถ และมีการเพิ่มไฟแสดงสีน้ำเงินสร้างความโดดเด่นในโหมดระบบการขับขี่อัจฉริยะ กระจังหน้าด้านล่างมีรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสีดำ ใช้ล้ออัลลอยสีดำลายกลีบดอกไม้ ช่วยเสริมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวเหมือนรถคูเป้ทรงยอดนิยม ด้านท้ายมีกันชนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และสปอยเลอร์ทรงหางเป็ดแบบใหม่เพิ่มความสปอร์ตให้กับ Xpeng G6 มิติตัวรถมีความยาว 4,758 มิลลิเมตร กว้าง 1,920 มิลลิเมตร และสูง 1,650 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,890 มิลลิเมตร
การออกแบบภายในของ Xpeng G6 ปี 2025 มาพร้อมสีภายในใหม่ วัสดุภายในรถมีการปรับปรุงใหม่ให้พรีเมียมกว่ารุ่นก่อนหน้า ตรงกลางมาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบลอยขนาด 15.6 นิ้ว จับคู่กับแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว พวงมาลัยมีการออกแบบเป็นแบบ capacitive และภายในห้องโดยสารมีระบบไฟส่องสว่าง ambient lighting โดยรอบแบบ “galaxy rthm” อีกด้วย
นอกจากนั้น ภายในยังมีการปรับเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร ได้แก่ เบาะนั่งด้านหน้านั่งสบายมาพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศ มีระบบอุ่นและระบบนวด โดยทางค่าย Xpeng อ้างว่าคุณสมบัติการนวดนี้จะเป็นการมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับ shiatsu-level เทียบได้กับเบาะนวดในญี่ปุ่นด้วยระบบแบบไฮเอนด์ นอกจากนี้คอนโซลกลางยังมีแท่นชาร์จแบบไร้สายและพื้นที่จัดเก็บสัมภาระเพิ่มเติมกว่ารุ่นก่อนหน้า ในขณะที่ช่องระบายอากาศมีการออกแบบใหม่ให้ดูสะอาดตายิ่งขึ้น
รถคันนี้ยังใช้หนังกลับเนื้อละเอียดพิเศษเป็นวัสดุแผงบุหลังคาอีกด้วย แผงหน้าปัดและช่องว่างประตูมีขนาดลดลงเหลือ 5±2 มิลลิเมตร เป็นการตกแต่งที่ประณีตยิ่งขึ้น แผงประตูกว้างมากกว่า 50% หุ้มด้วยหนังอย่างดี และพื้นที่ตรงบริเวณชาร์จไร้สายมีการอัพเกรดใหม่ด้วยวัสดุแบบสัมผัสนุ่ม การอัพเกรดเพิ่มเติมยังมีอีก ได้แก่ ลายไม้บนแผงหน้าปัด และชุดไฟส่องสว่าง ambient lighting โดยรอบแบบใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกระดับพรีเมียมภายในห้องโดยสารเป็นอย่างมาก
Xpeng G6 ยังคงใช้มอเตอร์เดี่ยวซึ่งขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์ม 800V มอเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตที่โรงงานในหวู่ฮั่นของ Xpeng ให้พละกำลังสูงสุด 218 กิโลวัตต์ หรือ 292 แรงม้า รถคันนี้มีแบตเตอรี่ AI ที่ชาร์จเร็วเป็นพิเศษระดับ 5C ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะปรับปรุงระยะเวลาในการชาร์จได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับระยะทางการวิ่งในตอนนี้ แต่ Xpeng เน้นย้ำถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่เป็นอย่างมาก และที่สำคัญไปกว่านั้นทางค่ายอ้างว่าระบบขับขี่อัจฉริยะ AI Turing จะเป็นหัวใจหลักสำคัญที่จะนำเสนอความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
ที่มา: carnewschina.com